เฝ้าเดี่ยววันที่ 30- เอเฟซัส 6:5-9
เฝ้าเดี่ยววันที่ 29 - 28 เมษายน 2017
เอเฟซัส 6:5-9 ฝนายจ้างและลูกจ้างอย่างคริสเตียน
เราควรมีท่าทีอย่างไรในการทำงานของเรา ซึ่งมีลักษณะ 2 ประการด้วยกันคือ
1. ทำเหมือนทำแก่พระคริสต์
ในการที่จะมีท่าทีต่อกันระหว่างเจ้านายลูกน้องนั้นจะต้องมีท่าที
-เชื่อฟัง ต้องเหมือนกับลูกที่เชื่อฟังพ่อ ทำด้วยความเต็มใจ
-ทำด้วยน้ำใสใจจริง ปราศจากการแสแสร้งหรือเห็นแก่ตัว
เวลาที่เราทำสิ่งใดก็ตามขอให้ทำเพื่อเห็นแก่พระคริส โดยมีท่าที ที่ทำด้วยจิตใจ ชื่นบาน สดใสกระตือรือร้น เมื่อเราทำสิ่งใดก็ตาม เมื่อจะต้องทำงาน เราเป็นคนที่สมัครใจที่จะทำ ไม่มีใครบังคับเรา เราไม่ได้เป็นทาสใคร แต่เราเป็นเสรีชน หมายถึงว่าเรามีอิสระในการที่จะเลือก และเราเลือกจะทำสิ่งที่ดี เราเลือกที่จะเชื่อฟัง เราเลือกที่จะอยุ่ใต้บังคับบัญชา เราเลือกจะสนุกกับงานของเรา เราเลือกให้งานของเรานั้นเป็นพรให้กับคนอื่น เราต้องเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับงานที่พระเจ้าให้กับเรา ไม่ว่าเราจะรับใช้ในจุดไหน เพราะไม่ใช่งานทุกอย่างที่เราทำเป็นงานที่เราชอบ และงานที่ชอบกับงานที่ใช่ไม่เหมือนกัน งานที่ใช่มันคือหน้าที่ของเรา ส่วนงานที่ชอบหมายถึงทำแล้วรู้สึกสบายใจ ยังไงก็ตามไม่ว่าจะเป็นงานที่ชอบหรืองานที่ใช่ ขอให้เราใส่ความยินดี ใส่ความรักของพระเจ้าลงไปในทุกงานนั้น เพราะคัมภีร์บอกว่า จงยินดีทุกเวลา ทำได้ทำงาน
สิ่งที่เราทำอยุ่ทุกวันนี้มันอยู่ที่มุมมองของเรา ซึ่งมุมมองเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้ามุมมองพลาดงานที่เราทำอยู่ตอนนี้ เราก็จะทำเพื่อเห็นแก่ตัวเอง แต่ถ้ามุมมองเราถูกต้องสิ่งที่เราทำอยู่ก็จะถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า เชื่อหรือไหมว่าพระเจ้าวางเราไว้ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่ว่า ณ ตอนนี้เราจะอยู่ในตำแหน่งอะไรก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามให้เราทำเพื่อพระเจ้า สิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้นเสมอ
แต่ถ้าเราทำสิ่งนั้นอย่างข่มขื่นใจ ทำไมฉันต้องเป็นอย่างนี้ ทำไมฉันต้องรับผิดชอบแบบนี้ นั้นแสดงว่าเราไม่มีทัศนคติที่ถูกต้องกับการมีชีวิตอยู่เพื่อทำแก่พระคริสต
การที่เราเองได้รับสิ่งที่ดีมากขึ้น อย่าลืมฐานะของเราว่าเรากำลังทำอะไร คนเราต้องเรียนรู้ตระหนักในคุณค่าของตัวเองเสมอว่า เราคือใคร พระเจ้าวางเราตรงไหน เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอยู่ผิดที่ผิดตำแหน่ง เราวางบทบาทของตัวเองผิด ความวุ่นวายก็จะเกิดขึ้น ดั่งนางฮากา เพราะฉะนั้น เราจงทำให้งานต็มที่ในส่วนของเรา ยินดีกับงานนั้นเพื่อเห็นแก่พระเจ้า แล้วเราก็จะได้รับพรจากพระเจ้า
2. ทำเหมือนทำต่อหน้าพระคริสต์
ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังเราต้องแสดงว่า พระคริสต์นั้นอยู่ต่อหน้าเราเสมอ พระองค์ทรงทอดพระเนตรอยู่เสมอ อย่าทำอะไรแค่คิดว่าคนอื่นมองเราอยุ่ ตะหนักว่าพระเยซูคริสต์เจ้าทรงเฝ้ามองเราในทุกเรื่อง ถ้าเราตระหนักเช่นนั้นเราจะทำทุกอย่างได้ดีที่สุดเช่นกัน
พระเจ้าทรงยุติธรรมกับเรา หากเราทำสิ่งใดก็ตาม เราต้องได้รับพรจากสิ่งนั้นแน่นอนเพราะพระเจ้าทรงทอดประเนตรอยู่เสมอ วันนี้ หว่านอะไรลงจะเก็บเกี่ยวอย่งนั้น การที่เราสัตย์ซื้อกับงานที่เราทำ บางทีเจ้านายมองไม่เห็น แต่พระเยซูคริสต์เจ้ามองเห็น ดังนั้นเจ้านายไม่ใช่เรื่องใหญ่ สำหรับเราทั้งหลายต้องมั่นใจว่าพระเจ้า ต้องการให้เราอยู่ตรงนั้น ทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด ทำเหมือนพระเยซูอยู่ต่อหน้าเราตลอด แล้วคนที่จะอวยพรให้กับเราก็คือพระเยซูคริสต์ และนั้นคือสิ่งที่หนุนน้ำใจเรา
คนที่เป็นนายก็เช่นกัน เราเองนั้นอยู่ต่อหน้าพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่คิดเอาเปรียบตลอดเวลาเพราะกำลังทำให้กับคนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนของพระคริสต์ด้วย เพราะ เราทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง ไม่มีใครรับผิดชอบเราได้เว้นแต่ตัวเราเอง
คนที่เป็นนาย ท่านจะต้องดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง อย่าไปขู่เข็ญเขา เพราะว่าท่านไม่ใช่เป็นนายสูงสุด ยังมีนายอีกผู้หนึ่งที่อยู่เหนือท่าน คนที่ปกครองเหนือท่านก็จะลงโทษท่านถ้าท่านทำผิด ดังนั้นอย่าคิดว่าเราใหญ่ที่สุด ต้องตระหนักว่าคนอื่นอยู่ภายใต้การปกครองของเรา ขณะเดียวกันเราอยู่ภายใต้การปกครองของพระเยซูคริสต์ และอย่าลืมว่า คนที่เป็นหัวหน้าทั้งหลายจะต้องรับผิดชอบหนัก เมื่อเรารับผิดชอบต่อพระเยซูคริสต์เจ้าเหมือนกัน หากเราทำกับคนเล็กน้อยคนหนึ่ง ก็เหมือนกับทำกับพระองค์ด้วย เพราะ ในพระคริสต์ทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราต้องให้เกียรติกันและกัน
จงอย่าลำเอียง แม้ว่าโลกนี้เราเป็นมนุษย์ ความจำกัดของเรามีอยู่เยอะ ซึ่งในองค์กรต่างๆ ความลำเอียงจะทำให้เกิดความทรยศเกิดขึ้น เราทุกคนมีความสัมพันธ์ แต่อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์อยู่หน้าความยุติธรรม ความยุติธรรมต้องเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะพระเยซูทรงประทับอยู่ต่อหน้าเราทั้งหลาย
ในหนังสือพิมพ์ Newsweek เขาได้ออกสำรวจและรายงานว่า
ร้อยละ 57 ของผู้จัดการแผนกจ้างงานเชื่อว่า ผุ้สมัครที่ดูไม่น่าดึงดูดใจ (แต่มีคุณสมบัติเหมาะสม) จะถูกจ้างงาานได้ยาก เพราะคนเรามักจะดูคนภายนอก
ร้อยละ 84 กล่าวว่า นายจ้างจะลังเลใจก่อนจ้างผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแต่อายุมาก เพราะคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก คิดว่าเขาคงอยุ่ได้ไม่นาน ทำกำไรให้เราคงไม่ได้เยอะเท่าไหร่
ร้อยละ 64 กล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่าบริษัทควรจะมีโอกาสว่าจ้างโดยดูจากบุคลิกภายนอกได้
สังเกตุได้ว่า นี้คือความจริงของโลกนี้ คือมักจะใส่ใจสิ่งที่อยุ่ภายนอกมากกว่าสิ่งที่อยุ่ภายใน แต่สำหรับลูกของพระเจ้า เราควรมีสายตาเหมือนพระเยซูคริสต์เจ้า พระเยซูใส่ใจจิตใจมากกว่าสิ่งที่อยุ่ภายนอก นั้นคือสิ่งที่พระเจ้าต้องการจากเรา เพราะเราคือลูกพระเจ้า
อย่าลืมว่าคนที่อยู่ภายใต้การปกครองของเรา เราต้องรับผิดชอบกับพระเจ้า เพราะเขาคือลูกพระเจ้าด้วย
เมือ่เราปรนนิบัตต่อพี่น้องของเรา พระเจ้าก็จะดูแล จัดการกับเราตามที่เราปฎิบัติกับเขา ถ้าเราดีกับเขา พระเจ้าก็จะดีกับเรา ดังนั้นเราต้องตระหนักในจุดนี้เสมอ จงตระหนักเสมอว่าเรากระทำต่อหน้าพระพักตหน้าพระคริสต์ ทิพเนตรและทิพกันฑ์
หลายคนมั่นใจในความสำเร็จของตัวเอง จนลืมไปว่าพระเจ้าเป็นนายของเรา พระเจ้าคือเจ้าของทุกอย่าง แต่ถ้าเราไม่ลืมแบบนั้น เราก็จะไม่ขาดพระพรไปยังลูกหลานของเราด้วย แต่ถ้าเราลืม เราอาจจะตกต่ำลงไปเมื่อเราหยิ่งผยอง อย่าลืมว่าผู้ที่ประทับเหนือเราคือพระเจ้า เมื่อเราดำเนินชีวิต เราจะต้องเดินไปด้วยความถ่อมใจกับพระเจ้าอยู่เสมอ เพราะเราทุกคนเป็นคนรับใช้ บางคนรับใช้นายในโลก บางคนรับใช้พระเจ้าผู้อยุ่ในสวรรค์ ทุกคนต่างเป็นคนรับใช้ ดังนั้นเมื่อเรารับใช้ ขอให้ทำดีที่สุด เหมือนกับทำให้แก่พระคริสต์ และทำเหมือนทำอยู่ต่อพระคริสต์ และเราจะเห็นแต่พระพรที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
อธิฐาน
ข้าแต่พระบิดาเจ้า พระวิญญาณอันบริสุทธิ์ ไม่ว่าข้าพระองค์จะรับบทบาทใดในโลกนี้ ข้าพระองค์คือคนรับใช้ของพระเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์ทำทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเพื่อเห็นแก่พระองค์ ให้เหมือนที่พระองค์ประทับต่อหน้าอยู่เสมอ โปรดให้ข้าพระองค์เป็นคนหนึ่งที่จะทำตามพระทัยของพระองค์ รู้จักพระทัยของพระองค์ ถวายเกียรติแก่พระองค์จากที่ข้าพระองค์ทำทุกประการ ขออวยพรที่พระวจนะนี้จะสำเร็จกับการงานทั้งหลายที่ข้าพระองค์กระทำด้วย ขอพระเจ้าประทานใจใหม่ให้กับข้าพระองค์ ให้ข้าพระองค์ยินดีกับงานที่กำลังทำ หากข้าพระองค์ทำอยู่ตอนนี้และรู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จของข้าพระองค์ ขอให้พระเจ้าได้เตือนข้าพระองค์ว่าอย่าให้เราเผลอพลาด หากข้าพระองค์ยังทำอะไรที่ไม่ดีที่สุด ขอให้ข้าพระองค์กลับใจ อย่าให้ข้าพระองค์รู้สึกว่าทำงานแค่ต่อหน้า แค่ประจบสอพรอ แต่ขอหนุนใจให้ข้าพระองค์ทำด้วยกำลังเต็มที่และเห็นแก่พระเยซูคริสตอย่างแท้จริง ขอการอวยพร ขอการทรงเจิมเหนือสำหรับข้าพระองค์เพื่อจะมีชีวิตอยุ่ต่อเพื่อพระองค์เจ้ามากยิ่งขึ้น อธิฐานในนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น