เฝ้าเดี่ยววันที่ 28 - เอเฟซัส 5 : 15-17

เฝ้าเดี่ยววันที่ 28 - 26 เมษายน 2017

การดำเนินชีวิตอย่างคนมีปัญญา  เอเฟซัส 5 : 15-17
15 เพราะฉะนั้นท่านจงระมัดระวังในการดำเนินชีวิต อย่าดำเนินชีวิตแบบคนไร้ปัญญา แต่จงดำเนินชีวิตแบบคนมีปัญญา 16 จงรู้จักใช้ทุกโอกาสเพราะเวลานี้เป็นยุคอันเลวร้าย  17 ฉะนั้นจงอย่าโง่เขลา แต่จงเข้าใจพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นเช่นใด

สำหรับพระเยซูคนที่มีปัญญาคือรุ้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
สำหรับ.. พระองค์ไม่ต้องการให้เราฉลาดอย่างเดียว แต่อยากให้เราฉลาดในการดำเนินชีวิตด้วย

ดำเนินชีวิตอย่างไรจึงเรียกว่า ลักษณะคนมีปัญญา
1. ระมัดระวัง คือ เราไม่รู้อะไรอยู่ข้างหน้า เราจึงต้องระมัดระวัง เพราะความกลัวเกินเหตุทำให้เราไม่สามารถระมัดระวังในการดำเนินชีวิตได้  อะไรที่สบายทั้งหลายทำให้คนเราไม่ระวังตัว บางครั้งเรากระวนกระวายเกินไป วุ่นวาย มีปัญญหาเกินไป สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวดึงเราออกและทำลายทำให้เราไม่สามารถจะนิ่งพอ ที่จะให้พระเจ้านำชีวิตเราได้  อะไรควรทำก็ต้องทำ จงระวังรักษาใจ  เพราะชีวิตเริ่มจากใจ

2. ร้อนรน จงใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ โอกาสที่เรามีตอนนี้คือฉวยโอกาสเอาไว้ คือมีกำไรชีวิต คือ การช่วยคน ทำดีกับคน แต่การช่วยคนก็ต้องมีปัญญา อย่าช่วยคนจนทำให้ทำให้เขานิสัยเขาเสีย และการให้โดยไม่บันยะบันยังจะทำให้เขานิสัยเสีย

เราอย่าร้อนแค่กิจกรรม แต่ให้เกิดจากการสร้างภายใน และมันจะสุขทั่วๆ ทุกอนูในชีวิต
เป้าหมายที่ดีทำให้คนเจ็บป่วยได้  ซึ่งพระเยซูสอนให้เรารู้ว่า ไม่ใช่คิดจะทำก็จะทำ แต่การจะทำทุกอย่างนั้นต้องใช้ปัญญา อะไรควรไม่ควร ต้องระมัดระวังเสมอ

3. รู้จักน้ำพระทัยของพระเจ้า  หลายครั้งเราเลือกอารมณ์ ความรุ้สึกควบคุมความถูกต้องต่อพระทัยของพระเจ้า มากกว่าที่เราจะทำตามพระทัยของพระองค์  คนที่ไร้ปัญญาคือคนที่ถูกควบคุมด้วยความรู้สึก ไม่ใช่ถูกควบคุมด้วยเหตุผลและความจริง

คนไร้ปัญญา คือ คนที่ถูกควบคุมด้วยความต้องการ ด้วยอารมณ์ คนที่สนใจหลักข้อเชื่อเพียงบางอย่าง
เพราะเรื่องบางเรื่องที่เราใส่ใจอาจจะไม่สำคัญที่สุด ดั้งนั้นเราต้องใส่ใจทุกเรื่องที่สำคัญ พระคัมภีร์ทุกตอนจึงได้รับการดลใจจากพระเจ้า ใส่ใจในทุกเรื่องทุกตอนเพราะพระคัมภีร์ได้ให้ ความสมบูรณ์ในทุกเรื่องของเรา

การอวยพรต่อพระเจ้าไม่ได้อยู่แค่อธิฐานแล้วจะได้รับ แต่การจะได้รับพรจากพระเจ้าคือการที่เราต้องลงมือทำหลายๆอย่างด้วย ดังนั้น ไม่ว่าเราจะไปร่วมกิจกรรมทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา แต่หากถ้าเราไม่ได้ทำ ตามพระคำของพระเจ้า คำอธิฐานนั้นก็ไม่มีประโยชน์  อย่าลืมว่าพระเจ้า ให้เรารู้จักน้ำพระทัยของพระเจ้า เราต้องเข้าใจพระทัยของพระองค์ และการเข้าใจพระทัยของพระองค์คือการเข้าใจในทุกคำสอนทุกข้อทุกตอน และจงลำดับให้ถูกต้อง อะไรสำคัญที่สุดแล้วเราก็เลือกสิ่งนั้นก่อน
เมื่อคนเราแสวงหาอะไร เมื่อพระเจ้ามีคุณค่าอะไร เราก็อยากจะฟังเสมอในพระคำของพระเจ้า
หาโอกาสที่จะทำ พยายามที่จะทำให้ได้ การฟังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่สิ่งสำคัญมากกว่าการฟังคือตั้งใจกระทำตาม เพราะฉะนั้นเราต้องมีรากฐานที่ดี ซึ่งชีวิตของเรา การกระทำตามพระคำเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

อธิฐาน
ข้าแต่พระบิดาเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่รอบคอบ และพระองค์ทรงประทานพระวจนะอันรอบคอบนี้ให้แก่ข้าพระองค์ในการดำเนินชีวิต โปรดให้ข้าพระองค์ระมัดระวัง ร้อนรน และรู้จักพระทัยพระองค์อยู่เสมอ อย่าให้ข้าพระองค์เป็นคนที่ดำเนินชีวิตด้วยการขาดความเข้าใจ  ขอจงยกโทษในหลายๆครั้งที่ข้าพระองค์ทำตามใจ แต่ไม่ทำตามพระทัย หลายครั้งที่ข้าพระองค์ปล่อยตัวเองให้ไม่ระมัดระวังว่า ซาตานมีอยู่รอบๆ ข้าพระองค์ปล่อยตัวเองในความผิดความบาป ทุ่มเทกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง และ ณ วันนี้โปรดให้ข้าพระองค์ และพี่น้องชาวคริสตจักรธารแห่งชีวิต และคริสตจักรทุกแห่งหนในโลกนี้ มีปัญญาที่จะทำตามพระคำของพระองค์ ให้เกิดผลตามพระทัยของพระองค์เจ้า  อธิฐานในนามพระเยซูเจ้า เอเเมน...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิฐานต่างๆ

คำอธิฐาน

อธิษฐานและนมัสการ ภาษาอังกฤษ