เฝ้าเดี่ยววันที่ 13 - มธ 6.19-20
วันที่ 13 - 3 เมเษายน 2560
(มธ 6.19-20)
ท่านทั้งหลายจงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้เลย ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมและขมวนกัดกิน และถูกขโมยเจาะช่องเข้ามาขโมยไปได้ แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมหรือขมวนกัดกิน และขโมยก็เจาะช่องเข้ามาขโมยไปไม่ได้”
1. จากข้อนี้บอกให้คุณทำอะไร?
พระเจ้าทรงพอพระทัยเมื่อเราทำสิ่งต่างๆ เพื่อคนอื่น แทนที่จะใช้เวลาและเงินทองทั้งหมดของเราเพื่อตัวเราเอง เราสามารถช่วยคนชรา บริจาคทานเงินช่วยเหลือคนจน ซื้อพระคัมภีร์เพื่อผู้อื่น หรือมอบของขวัญคริสต์มาสเพื่อลูกน้อยของนักโทษ เราสามารถบริจาคเงินเพื่อธรรมทูตจะได้เดินทางโดยเครื่องบินไปยังสถานที่ต่างๆ และเล่าเรื่องของพระเยซูเจ้าให้คนอื่นฟัง เราสามารถใช้ไหวพริบของเราด้วยเพื่อแบ่งปันความรักของพระเจ้ากับคนอื่น (เหมือนการทำละครเพื่อเล่าเรื่องของพระเยซูเจ้าแก่เพื่อนบ้าน ครอบครัวของเราหรือกลุ่มเด็กเล็ก) ถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้เพราะเรารักพระเยซูเจ้า เราจะสะสมทรัพย์ฝ่ายวิญญาณในสวรรค์ จำไว้ว่า พระเยซูเจ้าตรัสอย่างไรว่าทรัพย์สมบัติที่เราสะสมบนโลกจะมีมอดและสนิมกัดกิน แต่สิ่งที่เราสะสมในสวรรค์จะปลอดภัยในพระหัตถ์ของพระเจ้า ด้วยการให้ การแบ่งปันและการทำสิ่งต่างๆ เพื่อพระเยซูเจ้าในตอนนี้ เราสามารถสะสมทรัพย์ที่ยั่งยืนที่กำลังรอคอยเราเมื่อเราไปถึงสวรรค์ เนื่องจากสิ่งต่างๆ ที่เราหาซื้อมาในโลกนี้เป็นสิ่งที่ไม่คงทน และเป็นการโง่เขลาเมื่อซื้อสิ่งของต่างๆ มากมาย อาทิ คอมพิวเตอร์ เครื่องสเตริโอและของเล่นที่เราจะขว้างทิ้งอยู่ดี (สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขไม่นาน เขาก็นำไปโละขายลดราคาที่อู่รถหรือขายทางอินเตอร์เน็ต) แต่เป็นการฉลาดที่จะแบ่งปันบริจาคเงินและอาหาร ตลอดจนสิ่งอื่นๆ แก่คนที่ต้องการสิ่งเหล่านี้จริงๆ
ที่มา: หนังสือสวรรค์สำหรับเด็ก
1. ในอดีตหรือปัจจุบันมีสถานการณ์อะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณที่เกี่ยวขอ้งโดยตรงกับสิ่งที่ ข้อพระวจนะนี้กำลังสอนอยู่หรือไม่?
- นอกจากการบริจาคเงินแก่วัด เรายังสามารถบริจาคเงินแก่กลุ่มคริสตชนที่ช่วยเลี้ยงดูคนที่หิวโหยหรือประสบภัย เช่น น้ำท่วม พายุเฮอริเคน และแผ่นดินไหว พระเยซูเจ้าทรงพระประสงค์ให้เราทำสิ่งเหล่านี้ และพระองค์จะประทานรางวัลแก่เราสำหรับทุกสิ่งที่เราได้ทำ
2. จากสิ่งที่พระเจ้าสอนในข้อนี้คุณกำลังเชื่อฟังพระเจ้าในด้านไหนบ้าง?
- การทำความดี และการให้ทานต่อผู้ยากไร้
ขอบคุณพระองค์ที่มอบพระวจนะข้อนี้ให้แก่ลูกได้เรียนรู้ที่จะปฏิบัติ ให้ลูกได้เป็นหัวไม่เป็นหาง ให้ลูกได้สะสมทรัพย์ทั้งในโลกและบนสวรรค์ ลูกจะน้อมรับและปฎิบัติตามพระวจนะที่พระองค์สอนไว้ ข้าแต่พระบิดา พระเจ้าผู้ทรงรักเราไว้ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตย์ในสวรรค์ ขอพระองค์ทรงฟังคำร้องทูลที่ข้าพเจ้า ร้องบอกต่อพระองค์ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องใด ขอให้ข้าพเจ้ามีประสบการณ์ ที่จะรู้จักพระองค์ในฐานะพระเจ้าผุ้ทรงรัก พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ และพระเจ้าผุ้ทรงรู้ ว่าข้าพเจ้าต้องการสิ่งใด ขอพระเจ้าทรงตอบ ตามความเหมาะสม ตามน้ำพระทัยของพระองค์ ขอให้พระพระสงค์ของพระองค์สำเร็จในชีวิตของเราเองทั้งหลายในทุกๆคนด้วย ในนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...
และวันนี้ลูกผู้เชื่อในพระเจ้า อยากทูลขอในเรื่องการซื้อบ้านของลูกในอนาคต ลูกได้เข้าไปดูและพอใจในสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้แล้ว และลูกกำลังจะยื่นแบงค์ ธอส. ถ้าหากบ้านหลังนั้นเป็นสิ่งที่พระองค์มอบให้กับลูกแล้ว ลูกอยากจะขอพระองค์ช่วยให้ลูกดำเนินเรื่องธนาคารให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ไม่ติดขัดเรื่องใดๆ ไม่ว่าลูกจะปฎิเสธข้อเสนอที่เพิ่มมาจากธนาคาร ขอให้ลูกคิดและทำในสิ่งที่ดีที่สุดด้วยเถิดเจ้าขา เอเมน...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น