เฝ้าเดี่ยววันที่ 17 - มัทธิว18:21-35
วันที่ 17
- 9 เมษายน 2560
มัทธิว 18:21-35
ขณะนั้นเปโตรมาทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ควรยกโทษให้พี่น้องที่ทำผิดต่อข้าพระองค์สักกี่ครั้ง? ถึงเจ็ดครั้งเชียวหรือ?” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราไม่ได้บอกท่านว่าเจ็ดครั้งแต่เจ็ดสิบครั้งคูณเจ็ด “เพราะเหตุนี้ แผ่นดินสวรรค์ก็เปรียบเหมือนเจ้าองค์หนึ่งที่มีพระประสงค์จะคิดบัญชีกับบรรดาทาสของตน เมื่อท่านทรงเริ่มต้นคิดบัญชี คนหนึ่งที่เป็นหนี้หนึ่งหมื่นตะลันต์ ก็ถูกพามาเข้าเฝ้า ท่านจึงมีรับสั่งให้ขายตัวเขาพร้อมกับเมียและลูก รวมทั้งบรรดาสิ่งของที่เขามีอยู่นั้นเพื่อเอามาใช้หนี้ เพราะเขาไม่มีเงินที่จะใช้หนี้นั้น ทาสคนนั้นจึงกราบลงวิงวอนว่า ‘ขอโปรดผัดไว้ก่อน แล้วข้าพระองค์จะใช้หนี้ทั้งหมด’ เจ้าองค์นั้นทรงสงสาร จึงทรงปล่อยตัวเขาและทรงยกหนี้ แต่เมื่อทาสคนนั้นออกไปก็พบคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนทาสด้วยกัน ที่เป็นหนี้เขาอยู่หนึ่งร้อยเดนาริอัน เขาก็จับคนนั้นบีบคอบอกว่า ‘แกต้องใช้หนี้ให้ข้า’ เพื่อนทาสคนนั้นจึงกราบลงอ้อนวอนว่า ‘ขอผัดไว้ก่อนแล้วข้าจะใช้ให้’ แต่เขาไม่ยอม จึงนำทาสลูกหนี้นั้นไปขังคุกไว้จนกว่าจะสามารถใช้หนี้ได้ พวกเพื่อนทาสเมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็เป็นทุกข์อย่างยิ่ง และนำเหตุการณ์ทั้งหมดไปกราบทูลเจ้าองค์นั้น ท่านจึงเรียกทาสนั้นมาตรัสว่า ‘ไอ้ข้าชั่วร้าย เรายกหนี้ให้เอ็งทั้งหมด ก็เพราะเอ็งอ้อนวอนเรา เอ็งควรจะเมตตาเพื่อนทาสด้วยกัน เหมือนเราเมตตาเอ็งไม่ใช่หรือ?’ แล้วเจ้าองค์นั้นก็กริ้ว จึงทรงมอบทาสคนนั้นไว้ให้เจ้าหน้าที่ทรมานจนกว่าจะใช้หนี้หมด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะทรงทำต่อพวกท่านอย่างนั้น ถ้าพวกท่านแต่ละคนไม่ยอมยกโทษให้พี่น้องจากใจของพวกท่าน” มัทธิว 18:21-35 THSV11 http://bible.com/174/mat.18.21-35.THSV11
1. จากข้อนี้พระเจ้ากำลังสอนให้เราทำอะไร
การ ให้อภัยอย่างจริงใจ ผู้คนทั่วไปรู้ว่าการยกโทษเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเขาไม่ได้ปฏิบัติตาม ก็เท่ากับเก็บความเครียดแค้นใจขมขื่นไว้และนําไปสู่การทำลายตัวเอง หากจิตใจของเราถูก ครอบงําด้วยความขมขื่น และเก็บความเกลียดแม้แต่เพียงเป็นช่องว่างเล็ก ๆ ในจิตใจ และพูดว่า “ฉันไม่มีวันให้อภัย ฉันจะไม่ลืมเป็นอันขาด” นั่นย่อมหมายความว่า “หลักการในชีวิตของเราตรงข้าม กับหลักการของพระเจ้า” ไม่มีวิธีใดที่ เราจะเข้าสู่ความสัมพันธ์อันดีกับพระเจ้าได้นอกเสียจากว่าเราได้เรียนรู้ที่จะให้อภัยโดยอาศัยพระคุณของพระเจ้า เช่นเดียวกัยที่พระองค์ทรงให้อภัยเรานั้นเอง.
2. ทำไม ผลที่เกิดคืออะไร?
เมื่อเราไม่ให้อภัย ความโกรธในใจก็จะทำให้ชีวิตเราสั้นลงซึ่งจิตใจมีผลต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เป็นไปได้ที่บางทีเราเจ็บป่วย เรามีโรคประจำตัวบางอย่าง มันอาจจะเป็นเพราะผลจากการที่เราโกรธหรือเกลียดเก็บไว้ในใจ ที่ไม่ได้ให้อภัยใครสักคนในชีวิตก็เป็นได้ หรือเป็นไปได้ที่เราเกิดอุบัติเหตุ ซุ่มซ่าม ดูเหมือนคนหลงๆลืมๆ ดูเหมือนใช้ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะว่าเราเก็บใจโกรธเคือง เอาไว้ในชีวิตของเรา ไม่ใช่แค่บทบาททางกายภาพ แต่นั้นรวมถึงฝ่ายวิญญาณ ซึ่งเมื่อเราเก็บความโกรธเคืองในชีวิต ไม่ให้อภัย ประตูแห่งพระพรพระเจ้าก็ถูกปิดลง เราทำอะไร ขออะไรไปก็จะไม่ประสบความสำเร็จแบบเกินธรรมชาติ เพราะเราไม่ได้ให้อภัยทำให้ประตูแห่งพระพรถูกปิด และเราซึ่งดำเนินชีวิตอยู่ในโลกของคนบาป เราจำเป็นต้องให้อภัยคนให้ได้ เพราะในโลกนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ แม้แต่ตัวเราเอง ถ้าหากเราอยู่บนโลกนี้โดยการไม่ให้อภัย เราก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
3. ในอดีตหรือปัจจุบันมีสถานการณ์อะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสิ่งที่ข้อพระวจนะนี้กำลังสอนอยู่หรือไม่?
- ในอดีตข้าพเจ้าเคยเป็นคนที่ให้อภัยคนไม่เป็นเวลาเกลียดหรือไม่ชอบใครเราก็จะไม่อยากคุยกับเขาคนนั้น หรือตีตัวออกห่าง ซึ่งในทางตรงกันข้ามคนที่ถูกเราเกลียดเขาก็ยังสุขสบายดี ไม่ได้เครียดอะไร แต่เป็นเราเสียเองที่เก็บความรู้สึกไม่ดีเก็บขยะในใจเอาไว้ตลอดเวลา ซึ่งมันก็ทำลายสุขภาพจิต บั่นทอนจิตใจเราตลอด พระวจนะข้อนี้ได้สอนเราว่า ถ้าเราปรารถนาให้ความกรุณาของพระเจ้ามาถึงชีวิตเรา เราต้องเริ่มต้นที่จะมีความกรุณาต่อผู้อื่น ความกรุณาคือความเมตตาสงสาร เห็นอกเห็นใจ ยกโทษ ให้อภัย นําไปถึงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์
4. จุดสำคัญของข้อนี้คืออะไร? มีความหมายกับคุณอย่างไร?
- การให้อภัยไม่ใช่ลืมความผิด แต่เป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันและให้ก้าวข้ามมันไป
-การให้อภัยไม่ใช่การปล่อยให้ลอยนวล เพียงแต่เราไม่ปล่อยให้ความคิดเดิมๆมารบกวนจิตใจเราต่อไป ให้มองมันและรู้จักระวัง
- การให้อภัยคือการเรียนรู้จากอดีต เรียนรู้ที่จะไม่ทำให้เรานำไปสู่การทดลองในการต้องให้อภัยอีกสำหรับเรื่องเดิมๆ ซึ่งการให้อภัยจึงสมดุลกับการระวัง
-การตัดสินใจเลือก คือการเปลี่ยนท่าทีของเราในการตัดสินใจในการให้อภัย ว่าเราเลือกที่จะให้อภัยเขาคนนั้นหรือเลือกมี่จะไม่ให้อภัยเขา
ซึ่งพระวจนะข้อนี้มีความหมายต่อข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะว่า การไม่ให้อภัยกับผู้อื่นนั้นเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตของข้าพเจ้าอย่างยิ่ง เมื่อไม่ให้อภัย เราก็เหมือนเป็นคนที่ตัดขาดจากโลกภายนอก กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่อยากไปไหนและพบปะกับใครและอาจจะทำให้เราขาดเพื่อนที่ดีไปในอนาคตและนั้นเป็นสิ่งที่เราจะต้องปรับปรุงตัวเอง
5 การเปลี่ยนแปลงท่าทีของเราเมื่ออ่านพระวจนะข้อนี้?
- เราจะต้องมีใจให้อภัยกับคนอื่นให้มากขึ้นซึ่งนั้นจะเป็นสิ่งดีและนำเราไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น
https://www.youtube.com/watch?v=k_v0j23Vfrk
การอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก และในวันนี้ข้าพระองค์ขอสารภาพบาปที่พระองค์ทรงเปิดเผยพระคำในข้อนี้เกี่ยวกับการให้อภัย ซึ่งข้าพระองค์เคยเป็นคนที่ไม่อภัยคนบ่อยมาก เมื่อเพื่อนข้าพระองค์ไม่ทำตามสัญญา หรือจับโกหกใครบางคนได้ จะรู้สึกโกรธและไม่ชอบคนๆนั้นไปเลย ซึ่งในวันนี้ทำให้รู้ว่า การไม่ให้อภัยนั้นเป็บบาปในใจเราเป็นอย่างมาก ขอบคุณพระองค์ที่ได้ชี้นำพระคำในวันนี้ และขอทรงยกบาปผิดของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกโทษบรรดาคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์ และขออย่าทรงน พวกข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้ข้าพระองค์พ้นจากความชั่วร้าย เอเมน...
ข้าแต่พระบิดาเจ้า ด้วยพระคำข้อนี้ ข้าพระองค์อยากจะทูลขอให้กับผู้คนบนโลกนี้ให้กลับใจเมื่อพวกเขามีความโกรธ และ ไม่คิดให้อภัย ขอให้พวกเขาเหล่านั้นรวมถึงข้าพระองค์ เป็นคนใจเย็น มีสติ รักสันติ ไม่เห็นแก่ตัว รู้จักให้อภัย มีเมตตากับคนรอบข้าง เพื่อที่จะทำให้โลกใบนี้ของพระองค์เป็นโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นตลอดไป เอเมน...
มัทธิว 18:21-35
ขณะนั้นเปโตรมาทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ควรยกโทษให้พี่น้องที่ทำผิดต่อข้าพระองค์สักกี่ครั้ง? ถึงเจ็ดครั้งเชียวหรือ?” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราไม่ได้บอกท่านว่าเจ็ดครั้งแต่เจ็ดสิบครั้งคูณเจ็ด “เพราะเหตุนี้ แผ่นดินสวรรค์ก็เปรียบเหมือนเจ้าองค์หนึ่งที่มีพระประสงค์จะคิดบัญชีกับบรรดาทาสของตน เมื่อท่านทรงเริ่มต้นคิดบัญชี คนหนึ่งที่เป็นหนี้หนึ่งหมื่นตะลันต์ ก็ถูกพามาเข้าเฝ้า ท่านจึงมีรับสั่งให้ขายตัวเขาพร้อมกับเมียและลูก รวมทั้งบรรดาสิ่งของที่เขามีอยู่นั้นเพื่อเอามาใช้หนี้ เพราะเขาไม่มีเงินที่จะใช้หนี้นั้น ทาสคนนั้นจึงกราบลงวิงวอนว่า ‘ขอโปรดผัดไว้ก่อน แล้วข้าพระองค์จะใช้หนี้ทั้งหมด’ เจ้าองค์นั้นทรงสงสาร จึงทรงปล่อยตัวเขาและทรงยกหนี้ แต่เมื่อทาสคนนั้นออกไปก็พบคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนทาสด้วยกัน ที่เป็นหนี้เขาอยู่หนึ่งร้อยเดนาริอัน เขาก็จับคนนั้นบีบคอบอกว่า ‘แกต้องใช้หนี้ให้ข้า’ เพื่อนทาสคนนั้นจึงกราบลงอ้อนวอนว่า ‘ขอผัดไว้ก่อนแล้วข้าจะใช้ให้’ แต่เขาไม่ยอม จึงนำทาสลูกหนี้นั้นไปขังคุกไว้จนกว่าจะสามารถใช้หนี้ได้ พวกเพื่อนทาสเมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็เป็นทุกข์อย่างยิ่ง และนำเหตุการณ์ทั้งหมดไปกราบทูลเจ้าองค์นั้น ท่านจึงเรียกทาสนั้นมาตรัสว่า ‘ไอ้ข้าชั่วร้าย เรายกหนี้ให้เอ็งทั้งหมด ก็เพราะเอ็งอ้อนวอนเรา เอ็งควรจะเมตตาเพื่อนทาสด้วยกัน เหมือนเราเมตตาเอ็งไม่ใช่หรือ?’ แล้วเจ้าองค์นั้นก็กริ้ว จึงทรงมอบทาสคนนั้นไว้ให้เจ้าหน้าที่ทรมานจนกว่าจะใช้หนี้หมด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะทรงทำต่อพวกท่านอย่างนั้น ถ้าพวกท่านแต่ละคนไม่ยอมยกโทษให้พี่น้องจากใจของพวกท่าน” มัทธิว 18:21-35 THSV11 http://bible.com/174/mat.18.21-35.THSV11
1. จากข้อนี้พระเจ้ากำลังสอนให้เราทำอะไร
การ ให้อภัยอย่างจริงใจ ผู้คนทั่วไปรู้ว่าการยกโทษเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเขาไม่ได้ปฏิบัติตาม ก็เท่ากับเก็บความเครียดแค้นใจขมขื่นไว้และนําไปสู่การทำลายตัวเอง หากจิตใจของเราถูก ครอบงําด้วยความขมขื่น และเก็บความเกลียดแม้แต่เพียงเป็นช่องว่างเล็ก ๆ ในจิตใจ และพูดว่า “ฉันไม่มีวันให้อภัย ฉันจะไม่ลืมเป็นอันขาด” นั่นย่อมหมายความว่า “หลักการในชีวิตของเราตรงข้าม กับหลักการของพระเจ้า” ไม่มีวิธีใดที่ เราจะเข้าสู่ความสัมพันธ์อันดีกับพระเจ้าได้นอกเสียจากว่าเราได้เรียนรู้ที่จะให้อภัยโดยอาศัยพระคุณของพระเจ้า เช่นเดียวกัยที่พระองค์ทรงให้อภัยเรานั้นเอง.
2. ทำไม ผลที่เกิดคืออะไร?
เมื่อเราไม่ให้อภัย ความโกรธในใจก็จะทำให้ชีวิตเราสั้นลงซึ่งจิตใจมีผลต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เป็นไปได้ที่บางทีเราเจ็บป่วย เรามีโรคประจำตัวบางอย่าง มันอาจจะเป็นเพราะผลจากการที่เราโกรธหรือเกลียดเก็บไว้ในใจ ที่ไม่ได้ให้อภัยใครสักคนในชีวิตก็เป็นได้ หรือเป็นไปได้ที่เราเกิดอุบัติเหตุ ซุ่มซ่าม ดูเหมือนคนหลงๆลืมๆ ดูเหมือนใช้ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะว่าเราเก็บใจโกรธเคือง เอาไว้ในชีวิตของเรา ไม่ใช่แค่บทบาททางกายภาพ แต่นั้นรวมถึงฝ่ายวิญญาณ ซึ่งเมื่อเราเก็บความโกรธเคืองในชีวิต ไม่ให้อภัย ประตูแห่งพระพรพระเจ้าก็ถูกปิดลง เราทำอะไร ขออะไรไปก็จะไม่ประสบความสำเร็จแบบเกินธรรมชาติ เพราะเราไม่ได้ให้อภัยทำให้ประตูแห่งพระพรถูกปิด และเราซึ่งดำเนินชีวิตอยู่ในโลกของคนบาป เราจำเป็นต้องให้อภัยคนให้ได้ เพราะในโลกนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ แม้แต่ตัวเราเอง ถ้าหากเราอยู่บนโลกนี้โดยการไม่ให้อภัย เราก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
3. ในอดีตหรือปัจจุบันมีสถานการณ์อะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสิ่งที่ข้อพระวจนะนี้กำลังสอนอยู่หรือไม่?
- ในอดีตข้าพเจ้าเคยเป็นคนที่ให้อภัยคนไม่เป็นเวลาเกลียดหรือไม่ชอบใครเราก็จะไม่อยากคุยกับเขาคนนั้น หรือตีตัวออกห่าง ซึ่งในทางตรงกันข้ามคนที่ถูกเราเกลียดเขาก็ยังสุขสบายดี ไม่ได้เครียดอะไร แต่เป็นเราเสียเองที่เก็บความรู้สึกไม่ดีเก็บขยะในใจเอาไว้ตลอดเวลา ซึ่งมันก็ทำลายสุขภาพจิต บั่นทอนจิตใจเราตลอด พระวจนะข้อนี้ได้สอนเราว่า ถ้าเราปรารถนาให้ความกรุณาของพระเจ้ามาถึงชีวิตเรา เราต้องเริ่มต้นที่จะมีความกรุณาต่อผู้อื่น ความกรุณาคือความเมตตาสงสาร เห็นอกเห็นใจ ยกโทษ ให้อภัย นําไปถึงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์
4. จุดสำคัญของข้อนี้คืออะไร? มีความหมายกับคุณอย่างไร?
- การให้อภัยไม่ใช่ลืมความผิด แต่เป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันและให้ก้าวข้ามมันไป
-การให้อภัยไม่ใช่การปล่อยให้ลอยนวล เพียงแต่เราไม่ปล่อยให้ความคิดเดิมๆมารบกวนจิตใจเราต่อไป ให้มองมันและรู้จักระวัง
- การให้อภัยคือการเรียนรู้จากอดีต เรียนรู้ที่จะไม่ทำให้เรานำไปสู่การทดลองในการต้องให้อภัยอีกสำหรับเรื่องเดิมๆ ซึ่งการให้อภัยจึงสมดุลกับการระวัง
-การตัดสินใจเลือก คือการเปลี่ยนท่าทีของเราในการตัดสินใจในการให้อภัย ว่าเราเลือกที่จะให้อภัยเขาคนนั้นหรือเลือกมี่จะไม่ให้อภัยเขา
ซึ่งพระวจนะข้อนี้มีความหมายต่อข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะว่า การไม่ให้อภัยกับผู้อื่นนั้นเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตของข้าพเจ้าอย่างยิ่ง เมื่อไม่ให้อภัย เราก็เหมือนเป็นคนที่ตัดขาดจากโลกภายนอก กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่อยากไปไหนและพบปะกับใครและอาจจะทำให้เราขาดเพื่อนที่ดีไปในอนาคตและนั้นเป็นสิ่งที่เราจะต้องปรับปรุงตัวเอง
5 การเปลี่ยนแปลงท่าทีของเราเมื่ออ่านพระวจนะข้อนี้?
- เราจะต้องมีใจให้อภัยกับคนอื่นให้มากขึ้นซึ่งนั้นจะเป็นสิ่งดีและนำเราไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น
https://www.youtube.com/watch?v=k_v0j23Vfrk
การอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดา ของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก และในวันนี้ข้าพระองค์ขอสารภาพบาปที่พระองค์ทรงเปิดเผยพระคำในข้อนี้เกี่ยวกับการให้อภัย ซึ่งข้าพระองค์เคยเป็นคนที่ไม่อภัยคนบ่อยมาก เมื่อเพื่อนข้าพระองค์ไม่ทำตามสัญญา หรือจับโกหกใครบางคนได้ จะรู้สึกโกรธและไม่ชอบคนๆนั้นไปเลย ซึ่งในวันนี้ทำให้รู้ว่า การไม่ให้อภัยนั้นเป็บบาปในใจเราเป็นอย่างมาก ขอบคุณพระองค์ที่ได้ชี้นำพระคำในวันนี้ และขอทรงยกบาปผิดของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกโทษบรรดาคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์ และขออย่าทรงน พวกข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอให้ข้าพระองค์พ้นจากความชั่วร้าย เอเมน...
ข้าแต่พระบิดาเจ้า ด้วยพระคำข้อนี้ ข้าพระองค์อยากจะทูลขอให้กับผู้คนบนโลกนี้ให้กลับใจเมื่อพวกเขามีความโกรธ และ ไม่คิดให้อภัย ขอให้พวกเขาเหล่านั้นรวมถึงข้าพระองค์ เป็นคนใจเย็น มีสติ รักสันติ ไม่เห็นแก่ตัว รู้จักให้อภัย มีเมตตากับคนรอบข้าง เพื่อที่จะทำให้โลกใบนี้ของพระองค์เป็นโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นตลอดไป เอเมน...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น