มานาประจำวันที่ 23 มค 60- 1 ยอห์น 3:16-24

ยอมรับพระคำ

 อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง

เรม่า
รักแท้คือการกระทำ ไม่ใช่ความรู้สึก รักแท้ทำให้เกิดการให้อย่างเสียสละและไม่เห็นแก่ตัว การแสดงออกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการสละชีวิตตนเองเพื่อผู้อื่น  เราสามารถเสียสละได้เช่นกันโดยการปรนนิบัติรับใช้ผู้อื่นอย่างไม่หวังผลตอบแทน - คองเกรส

พระสัญญา
- และทุกคนที่ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ก็อยู่ในพระองค์ และพระองค์ทรงสถิตอยู่ในคนนั้น

คือเราอยู่ในพระคริสต์และพระองค์ทรงอยู่ในเรา มีบทบัญญัติ 3 ข้อคือ เชื่อในพระคริสต์ รักพี่น้อง และดำเนินชีวิตอย่างซื่อตรงตามทำนองคลองธรรม

ความบาป
- ยังรักคนที่ไม่น่ารักไม่ได้ เห็นแก่ตัว เอาความคิดของตัวเองเป็นศูนย์กลาง ต้องการเอาชนะคนอื่นในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง

คำสั่ง
ให้เราทั้งหลายวางใจในพระนามของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ และให้เรารักซึ่งกันและกัน ตามที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติไว้แก่เรา

ท่าทีที่ต้องเปลี่ยน
ปฎิบัติต่อพี่น้องด้วยใจยินดี ช่วยเหลือเมื่อมีโอกาส

ยอมปฎิบัติตาม

เข้าหาพระเจ้าด้วยใจ เชื่อฟังและทำตามประสงค์ของพระเจ้า พระองค์จะทรงฟังคำอธิฐานของเราอย่างแน่นอน เหมือนยอห์นที่ได้ยืนยันพระสัญญาของพระเยซูที่ว่า " จงขอแล้วท่านจะได้รับ"

มานาประจำวันที่ 23 มค 60- 1 ยอห์น 3:16-24

3:16ดังนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ทรงยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเราทั้งหลาย และเราทั้งหลายก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง 3:17แต่ถ้าผู้ใดมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสนแล้วยังใจจืดใจดำไม่สงเคราะห์เขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในผู้นั้นอย่างไรได้ 3:18ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง 3:19ถ้าใจของเรากล่าวโทษตัวเราเมื่อไร เราก็จะรู้ว่า เราอยู่ฝ่ายสัจจะและใจเราจะหมดกังวลจำเพาะพระองค์ 3:20เพราะพระเจ้าทรงเป็นใหญ่กว่าใจของเรา และพระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง 3:21ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าใจของเราไม่ได้กล่าวโทษเรา เราก็มีความมั่นใจที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้า 3:22และเราขอสิ่งใดๆเราก็ได้สิ่งนั้นๆจากพระองค์ เพราะเราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ และปฏิบัติตามชอบพระทัยพระองค์ 3:23และนี่เป็นพระบัญญัติของพระองค์ คือว่า ให้เราทั้งหลายวางใจในพระนามของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ และให้เรารักซึ่งกันและกัน ตามที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติไว้แก่เรา 3:24และทุกคนที่ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ก็อยู่ในพระองค์ และพระองค์ทรงสถิตอยู่ในคนนั้น เหตุฉะนี้เราจึงรู้ว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่ในเราคือโดยพระวิญญาณ ซึ่งพระองค์ทรงโปรดประทานแก่เรา

เรม่า: รักซึ่งกันและกัน

ทำไมคนเราบางคน ที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ เราถึงสามารถมอบความรักให้กัน ช่วยเหลือกัน  รักษาน้ำใจกันได้แต่ทำไมเวลาผ่านไป เราจะต้องทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน เห็นแก่ตัวใส่กัน แบ่งพักแบ่งพวก เอาชนะกัน พูดให้ร้ายกัน นินทาว่าร้ายกัน ทำไมเราถึงไม่มีความจริงใจให้กันตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันที่เจอกัน??

รักแท้คือการกระทำ ไม่ใช่ความรู้สึก รักแท้ทำให้เกิดการให้อย่างเสียสละและไม่เห็นแก่ตัว การแสดงออกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการสละชีวิตตนเองเพื่อผู้อื่น  เราสามารถเสียสละได้เช่นกันโดยการปรนนิบัติรับใช้ผู้อื่นอย่างไม่หวังผลตอบแทน  บางครั้งการพูดว่าจะตายเพื่อคนอื่นก็ทำได้ง่ายกว่าการมีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริง เพราะนั้นหมายถึงการคิดถึงความต้องการของผู้อื่นก่อนตัวเอง พระเยซูทรงสอนหลักการเรื่องความรักในพระธรรมยอห์น 15:13 "ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน" - คองเกรส

พระเจ้าสอนให้เราทั้งหลายวางใจในพระนามของพระเยซูคริสต์และให้เรารักซึ่งกันและกัน ตามที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติไว้แก่เรา คือเราอยู่ในพระคริสต์และพระองค์ทรงอยู่ในเรา มีบทบัญญัติ 3 ข้อคือ
1. เชื่อในพระคริสต์ เป็นความเชื่อที่ส่งผลต่อการกระทำ จนเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้

2. รักพี่น้อง พระเจ้าให้เรารักซึ่งกันและกัน
3. ดำเนินชีวิตอย่างซื่อตรงตามทำนองคลองธรรม 

ให้เราใช้ชีวิตให้เหมือนดั่งพระคริสต์ เราก็จะสามารถ รักซึ่งกันและกันได้

ดั่งเช่นพระวจนะของพระเจ้าที่ว่า อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการ
กระทำและด้วยความจริง

ข้าแต่พระบิดา พระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอพระองค์ช่วยลูกที่จะรักพี่น้องได้ด้วยใจยินดี มีใจที่จะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน และเพิ่มความเชื่อของลูกให้ลูกเปลี่ยนแปลงตัวเองตามพระคำของพระองค์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...