มานาประจำวันที่ 12 มกราคม 2561-มาลาคี 3:13-18
มานาประจำวันที่ 12 มกราคม 2561-มาลาคี 3:13-18
หลายครั้งที่ตั้งคำถามให้กับตัวเองว่าเรามารับใช้พระเจ้าเพราะอะไร ทำไมต้องรับใช้ เราทำเพราะเป็นหน้าที่ หรือเราทำด้วยใจยินดี หรือทำเพราะได้รับพระพรหรือป่าว
แต่ก็เห็นผู้คนที่เข้ามาเชื่อในพระเจ้าเหมือนกันแต่ไม่ได้ทำอะไรเลย มาเพื่อนมัสการพระเจ้าเพียงอย่างเดียว บางทีเราก็อยากจะทำแบบนั้นบ้างน่ะ เชื่อพระเจ้าและแค่นมัสการพระเจ้าเพียงอย่างเดียว แค่นี้ก็ได้รับความรอด
มาลาคี 3:16 - แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงพูดกันและกัน พระเจ้าทรงฟังและทรงได้ยิน และมีหนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำหน้าพระพักตร์ ได้บันทึกชื่อผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าและที่ตรึกตรองในพระนามของพระองค์ไว้ เพราะพระเจ้าจะทรงระลึกถึงคนเหล่านั้นที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และที่ยังคงรัก ยำเกรง ถวายเกียรติ และเคารพนับถือพระองค์
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เห็นผู้รับใช้ที่เขารับใช้พระเจ้าเหมือนกัน โดยที่ไม่บ่นว่าเหนื่อย ไม่กล่าวโทษคนอื่น ทำด้วยความถ่อมใจ มีแต่คำหนุนใจ อธิษฐานให้กัน ก็เป็นสิ่งที่การหนุนใจอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรามีแรงกำลังที่จะรับใช้พระเจ้าต่อไป เพราะพระเจ้ารู้ว่าเราเป็นคนยังไง พระองค์จึงมีแผนการให้เราเข้ามากระบวนการในการรับใช้ เพราะพระเจ้าเลือกเรา เพราะเราคือคนที่พระเจ้าเลือก
วันนี้แทนที่เราจะถามว่า รับใช้พระเจ้ามีอะไรดี เราได้ประโยชน์อะไรจากการรับใช้พระเจ้า เราต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เป็น พระเจ้าจะได้อะไรจากการรับใช้ของเรา
หัวใจของผู้รับใช้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ต้องการให้ผู้คนเห็นถึงความรักของพระเจ้า ต้องการฉายพระลักษณะของพระเจ้าส่องสว่างผ่านตัวเรา ทุกคนต่างมีหน้าที่ในสิ่งที่เราทำ และทำด้วยใจยินดี และมันจะดียิ่งขึ้นถ้าเราช่วยกันสร้างระบบการรับใช้พัฒนาาให้สมบูรณ์ ต่อไป
เพราะสมบัติอันล้ำค่าของพระเจ้าคือ ผู้ที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์ สิ่งนี้เป็นจริงตามพระสัญญาที่พระองค์ทรงให้กับประชาชนของพระองค์ (อพย.19:5) พระธรรมเปโตร2:9 บอกว่า ผู้เชื่อทั้งหลายเป็นสมบัติลำค่าของพระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา พระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอพระองค์เพิ่มความเชื่อและวางใจในพระองค์ให้มากขึ้นในทุกๆวัน ขอให้ลูกไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆ ที่เข้ามา ขออย่าให้ลูกเจอการทดลองใดๆ และให้ลูกมีใจรักที่จะรับใช้ในพระองค์ต่อไป ลูกขออธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...
3:13"พระเจ้าตรัสว่า 'ถ้อยคำของเจ้านั้นใส่ร้ายเรา' เจ้ายังกล่าวว่า 'เราทั้งหลายได้กล่าวใส่ร้ายพระองค์สถานใด' 3:14เจ้าได้กล่าวว่า 'ที่จะปรนนิบัติพระเจ้าก็เปล่าประโยชน์ ที่เราจะรักษาพระดำรัสสั่งของพระองค์ หรือดำเนินอย่างคนไว้ทุกข์ต่อพระพักตร์พระเจ้าจอมโยธานั้นจะได้ผลดีอันใด 3:15บัดนี้เราถือว่าคนอวดดีเป็นคนได้รับพร เออ คนที่ประกอบการอธรรม ใช่ว่าจะมั่งคั่งเท่านั้น แต่เมื่อเขาได้ทดลองพระเจ้าแล้วก็ปลอดภัยไป' 3:16แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงพูดกันและกัน พระเจ้าทรงฟังและทรงได้ยิน และมีหนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำหน้าพระพักตร์ ได้บันทึกชื่อผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าและที่ตรึกตรองในพระนามของพระองค์ไว้ 3:17พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า "เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของเรา ในวันที่เราจะประกอบกิจ และเราจะไว้ชีวิตคนเหล่านี้ ดังชายที่ไว้ชีวิตบุตรของเขาผู้ปรนนิบัติเขา 3:18แล้วเจ้าจะสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างคนชอบธรรมและคนอธรรม ระหว่างคนที่ปรนนิบัติพระเจ้ากับคนที่ไม่ปรนนิบัติพระองค์ได้อีกครั้งหนึ่ง
เรม่า : รับใช้ด้วยใจยินดีหลายครั้งที่ตั้งคำถามให้กับตัวเองว่าเรามารับใช้พระเจ้าเพราะอะไร ทำไมต้องรับใช้ เราทำเพราะเป็นหน้าที่ หรือเราทำด้วยใจยินดี หรือทำเพราะได้รับพระพรหรือป่าว
แต่ก็เห็นผู้คนที่เข้ามาเชื่อในพระเจ้าเหมือนกันแต่ไม่ได้ทำอะไรเลย มาเพื่อนมัสการพระเจ้าเพียงอย่างเดียว บางทีเราก็อยากจะทำแบบนั้นบ้างน่ะ เชื่อพระเจ้าและแค่นมัสการพระเจ้าเพียงอย่างเดียว แค่นี้ก็ได้รับความรอด
มาลาคี 3:16 - แล้วคนเหล่านั้นที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงพูดกันและกัน พระเจ้าทรงฟังและทรงได้ยิน และมีหนังสือม้วนหนึ่งสำหรับบันทึกความจำหน้าพระพักตร์ ได้บันทึกชื่อผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้าและที่ตรึกตรองในพระนามของพระองค์ไว้ เพราะพระเจ้าจะทรงระลึกถึงคนเหล่านั้นที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และที่ยังคงรัก ยำเกรง ถวายเกียรติ และเคารพนับถือพระองค์
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เห็นผู้รับใช้ที่เขารับใช้พระเจ้าเหมือนกัน โดยที่ไม่บ่นว่าเหนื่อย ไม่กล่าวโทษคนอื่น ทำด้วยความถ่อมใจ มีแต่คำหนุนใจ อธิษฐานให้กัน ก็เป็นสิ่งที่การหนุนใจอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรามีแรงกำลังที่จะรับใช้พระเจ้าต่อไป เพราะพระเจ้ารู้ว่าเราเป็นคนยังไง พระองค์จึงมีแผนการให้เราเข้ามากระบวนการในการรับใช้ เพราะพระเจ้าเลือกเรา เพราะเราคือคนที่พระเจ้าเลือก
วันนี้แทนที่เราจะถามว่า รับใช้พระเจ้ามีอะไรดี เราได้ประโยชน์อะไรจากการรับใช้พระเจ้า เราต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เป็น พระเจ้าจะได้อะไรจากการรับใช้ของเรา
หัวใจของผู้รับใช้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ต้องการให้ผู้คนเห็นถึงความรักของพระเจ้า ต้องการฉายพระลักษณะของพระเจ้าส่องสว่างผ่านตัวเรา ทุกคนต่างมีหน้าที่ในสิ่งที่เราทำ และทำด้วยใจยินดี และมันจะดียิ่งขึ้นถ้าเราช่วยกันสร้างระบบการรับใช้พัฒนาาให้สมบูรณ์ ต่อไป
เพราะสมบัติอันล้ำค่าของพระเจ้าคือ ผู้ที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์ สิ่งนี้เป็นจริงตามพระสัญญาที่พระองค์ทรงให้กับประชาชนของพระองค์ (อพย.19:5) พระธรรมเปโตร2:9 บอกว่า ผู้เชื่อทั้งหลายเป็นสมบัติลำค่าของพระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา พระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอพระองค์เพิ่มความเชื่อและวางใจในพระองค์ให้มากขึ้นในทุกๆวัน ขอให้ลูกไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆ ที่เข้ามา ขออย่าให้ลูกเจอการทดลองใดๆ และให้ลูกมีใจรักที่จะรับใช้ในพระองค์ต่อไป ลูกขออธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น