มานาประจำวันที่ 20 มิย 61 - ฟีลิปปี 1:12-24

มานาประจำวันที่ 20 มิย 61 - ฟีลิปปี 1:12-24


1:12ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านทราบว่า การทั้งปวงที่อุบัติขึ้นกับข้าพเจ้านั้น ได้กลับเป็นเหตุให้ข่าวประเสริฐแผ่แพร่กว้างออกไป 1:13จนประจักษ์ทั่วกันในหมู่ผู้คุมและคนอื่นๆว่า การที่ข้าพเจ้าถูกจำจองนั้น ก็เพื่อพระคริสต์ 1:14และพี่น้องส่วนมากได้เกิดความไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า เนื่องด้วยการจำจองของข้าพเจ้า และพวกเขามีใจกล้าขึ้น ที่จะกล่าวพระวจนะของพระเจ้าโดยปราศจากความกลัว 1:15ความจริงมีบางคนประกาศพระคริสต์ด้วยจิตใจริษยาและทุ่มเถียงกัน แต่ก็มีคนอื่นที่ประกาศด้วยใจหวังดี 1:16ฝ่ายหนึ่งประกาศพระคริสต์ด้วยใจรัก โดยรู้แล้วว่าทรงตั้งข้าพเจ้าไว้ให้กล่าวแก้เพื่อข่าวประเสริฐนั้น 1:17แต่ฝ่ายหนึ่งประกาศด้วยการแข่งดีกัน ไม่ใช่ด้วยใจสุจริต จงใจจะเพิ่มความทุกข์ลำบากแก่ข้าพเจ้าในการถูกจำจอง 1:18ถ้าเช่นนั้นจะแปลกอะไร แม้เขาจะประกาศพระคริสต์ด้วยประการใดก็ตาม จะเป็นด้วยการแกล้งทำก็ดีหรือด้วยใจจริงก็ดี แต่เขาก็ได้ประกาศพระคริสต์ ในการนี้ทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดี 1:19ข้าพเจ้าจะมีความชื่นชมยินดีต่อไปด้วย เพราะข้าพเจ้ารู้ว่า โดยคำอธิษฐานของท่าน และโดยการช่วยเหลือของพระวิญญาณแห่งพระเยซูคริสต์ นี้จะเป็นเหตุให้ข้าพเจ้ารับการช่วยกู้ 1:20เพราะว่าเป็นความมุ่งมาดปรารถนาและความหวัง ว่าข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความละอายใดๆเลย แต่เมื่อก่อนทุกครั้งมีใจกล้าเสมอฉันใด บัดนี้ก็ขอให้เป็นเช่นเดียวกันฉันนั้น พระคริสต์จะได้ทรงรับเกียรติในร่างกายของข้าพเจ้าเสมอ แม้จะโดยชีวิตหรือโดยความตาย 1:21เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร 1:22ถ้าข้าพเจ้ายังจะมีชีวิตอยู่ในร่างกาย ข้าพเจ้าก็จะทำงานให้เกิดผล แต่ข้าพเจ้าบอกไม่ได้ว่าจะเลือกฝ่ายไหนดี 1:23ข้าพเจ้าลังเลใจอยู่ในระหว่างสองฝ่ายนี้ คือว่า ข้าพเจ้ามีความปรารถนาที่จะจากไปเพื่ออยู่กับพระคริสต์ ซึ่งประเสริฐกว่ามากนัก 1:24แต่การที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่ในร่างกายนี้ก็จำเป็นมากสำหรับพวกท่าน

ส่องสว่างภายใน
แรกๆที่มาเชื่อพระเจ้าใหม่ๆ มีความรู้สึกอายที่จะบอกใครต่อใครว่าเรามาเชื่อพระเจ้าแล้วน่ะ แต่ก็ไม่สามารถบอกเหตุผลที่ดีได้กับคนอื่นได้ว่าทำไม และเมื่อความเชื่อมากขึ้น เราก็พยายามประกาศกับคนอื่น แต่ประกาศแล้วเขาไม่ได้เชื่อสักเท่าไหร่ หรืออาจจะเพราะแค่อยากประกาศแต่ไม่ได้สำแดงชีวิตให้เขาเห็น ว่าพระเจ้าดีต่อเราอย่างไร เขาเลยไม่ได้เชื่อและเห็นด้วยกับเราในสิ่งที่เราบอกไป แต่พอเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น เข้าใจในพระคุณของพระเจ้ามากขึ้น ทำให้เราคิดในทางที่ถูกมากขึ้น ทำให้รู้ว่าพระเจ้าคงต้องการเปลี่ยนเราก่อนที่เราจะเป็นแสงสว่างให้ผู้อื่น เพราะเมื่อเราส่องสว่างจากภายใน เขาก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง และเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังจะบอกกับเขา ว่าพระองค์ดีอย่างไร ซึ่งไม่ใช่แค่คำพูดที่เราไปบอกว่าพระองค์ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราบอกผ่านสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราว่าเราเปลี่ยนแปลงแค่ไหนเมื่อมาเชื่อพระเจ้า

ที่สุดของการกล่าวข่าวประเสริฐในความคิดของตัวเองคือการเปลี่ยนแปลงตัวเองและทำให้คนรอบข้างเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและให้เห็นพระสิริของพระเจ้าผ่านชีวิตเรา โดยที่เรามีพระเยซูเป็นแบบอย่างที่ดีในชีวิตเรา และส่งผ่านไปยังเพื่อนพี่น้องรอบข้างของเราให้ได้ก่อน โดยทำด้วยใจไม่ใช่แสแสร้ง หรือจำใจ ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด เชื่อว่าพระเจ้าจะทำในส่วนของพระองค์เช่นกัน

ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอบคุณพระสิริของพระองค์ที่ส่งผ่านความรักความเมตตามาสู่พี่น้องคริสเตียนรอบข้างของลูก ที่ให้ลูกเห็นถึงความจริง ความรัก ความจริงใจผ่านผู้คนเหล่านี้ ขอใจของลูกใช้ความรักสวมทับทุกสิ่ง เหมือนพระองค์ ขอการเปลี่ยนแปลงที่ลูกจะสามารถเป็นเกลือและแสงสว่างให้กับผู้คนรอบกายและสามารถบอกเล่าเรื่องราวของพระองค์ผ่านชีวิตของลูก อธ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...











ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิฐานต่างๆ

คำอธิฐาน

อธิษฐานและนมัสการ ภาษาอังกฤษ