มานาประจำวันที่ 18 มิย 61 - ปฐมกาล 28:10-22
มานาประจำวันที่ 18 มิย 61 - ปฐมกาล 28:10-22
28:10ยาโคบออกจากเมืองเบเออร์เชบาเดินไปยังเมืองฮาราน 28:11เขามาถึงที่แห่งหนึ่ง และพักอยู่ที่นั่นในคืนนั้น เพราะดวงอาทิตย์ตกแล้ว เขาเอาหินก้อนหนึ่งมาหนุนศีรษะ แล้วนอนลงที่นั่น 28:12เขาฝันว่ามีบันไดอันหนึ่งตั้งขึ้นบนแผ่นดินโลก ยอดถึงฟ้าสวรรค์ ทูตทั้งหลายของพระเจ้ากำลังขึ้นลงอยู่บนนั้น 28:13พระเจ้าประทับยืนอยู่เหนือบันได {หรือ ข้างๆเขา} และตรัสว่า "เราคือเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัมบิดาของเจ้า และพระเจ้าของอิสอัค แผ่นดินซึ่งเจ้านอนอยู่นั้นเราจะให้แก่เจ้าและเชื้อสายของเจ้า 28:14เชื้อสายของเจ้าจะเป็นเหมือนผงคลีบนแผ่นดิน เจ้าจะแผ่กว้างออกไปทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ทางทิศเหนือและทิศใต้ บรรดาพงศ์พันธุ์ของมนุษย์โลกจะได้รับพรเพราะเจ้าและเพราะเชื้อสายของเจ้า 28:15เราอยู่กับเจ้า และจะพิทักษ์รักษาเจ้าทุกแห่งหนที่เจ้าไป และจะนำเจ้ากลับมายังดินแดนนี้ เพราะเราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า จนกว่าเราจะได้ทำสิ่งซึ่งเราพูดกับเจ้าไว้นั้นแล้ว" 28:16ยาโคบตื่นขึ้นและพูดว่า "พระเจ้าทรงสถิตณที่นี้แน่ทีเดียว แต่ข้าหารู้ไม่" 28:17เขากลัวและพูดว่า "สถานที่นี้ศักดิ์สิทธิ์นัก สถานที่นี้มิใช่อื่นไกลเป็นที่ประทับของพระเจ้า และประตูฟ้าสวรรค์" 28:18ยาโคบจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด เอาก้อนหินซึ่งใช้หนุนศีรษะ ตั้งขึ้นเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ และเทน้ำมันบนยอดเสานั้น 28:19เขาเรียกสถานที่นั้นว่าเบธเอล {แปลว่า ที่ประทับของพระเจ้า} แต่ก่อนเมืองนั้นชื่อลูส 28:20แล้วยาโคบปฏิญาณว่า "ถ้าพระเจ้าทรงอยู่กับข้าพระองค์ ทรงพิทักษ์รักษาในทางที่ข้าพระองค์ไป ประทานอาหารให้ข้าพระองค์รับประทาน และเสื้อผ้าให้ข้าพระองค์สวม 28:21จนข้าพระองค์กลับมาบ้านบิดาของข้าพระองค์โดยสวัสดิภาพแล้ว พระเยโฮวาห์จะทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ 28:22และก้อนหินซึ่งข้าพระองค์ตั้งไว้เป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นที่ประทับของพระเจ้า และทุกสิ่งที่พระองค์ทรงประทานแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะถวายหนึ่งในสิบแก่พระองค์"
การชนะความกลัวด้วยความเชื่อ
เมื่อไหร่ที่เรามีความกลัวนำหน้า ไม่ว่าจะเพราะไม่มีความเชื่อ หมดศรัทธา หมดกำลังใจ เจอกำแพงหาทางออกไม่เจอ เหมือนอยู่ในเขาวงกต คิดวนไปตลอดเวลาด้วยคำว่า "กลัว" ทุกอย่างก็จะหยุดอยู่ที่เดิม ไม่สามารถเดินต่อ หรืออาจจะถอยหลังด้วยการหลีกเลี่ยง หรือแก้ไขปัญหาที่ผิดวิธี หรือแก้ปัญหาแค่ปลายเหตุ แทนที่จะแก้ปัญหาให้ถูกจุด ทำให้ปัญหานั้นก็จะวนไปอยู่แบบนั้น แก้ไม่หายสักที เดินหน้าถอยหลัง วนลูปอยู่อย่างนั้น
เหมือนคริสตจักร ที่กำลังจะเติบโตทุกอย่างอยู่ในแผนการของพระเจ้าที่พระเจ้ากำลังสร้างวิหารของพระองค์ให้เติบโตและเข็มแข็งในทางของพระองค์ แน่นอนในตอนนี้ทุกคนคงอยู่ในภาวะของการกลัวการล้มลง การผิดพลาด ทุกสิ่งขาด แต่พระเจ้าสัญญาว่าเราจะไม่ให้เจ้าขาดสิ่งใดเลย เพียงแค่เราเดินหน้าทำมันด้วยความเชื่อและไม่ผิดไปจากทางของพระองค์ แก้ไขที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ที่ปลายเหตุ อย่างเช่น การจัดการ การบริหารของโบสถ์ ทุกคริสตจักรล้วนมีปัญหาในจุดนี้ แต่ถ้าเราจัดการทุกสิ่งที่สอดคล้องไปกับน้ำพระทัยของพระองค์ ทุกอย่างก็จะราบรื่น สิ่งที่เรากลัวตอนนี้คือคิดว่าคนไม่พอในการรับใช้ ได้แต่กลัวและแก้ไขเพียงปลายเหตุ แต่ไม่หาวิธีที่จะสร้างผู้คนเหล่านั้นขึ้นมา ทุกอย่างไม่ได้สร้างภายในวันเดียว แต่ทุกอย่างสามารถกำหนดและทำมันขึ้นมาได้ ด้วยการทรงนำของพระเจ้า ด้วยการมีใจที่จะช่วยเหลือ ด้วยการมีใจที่จะขวนขวาย ไม่ใช่การอยู่นิ่งเฉยๆ รอวันที่พระเจ้าจะส่งคนๆนั้นมาให้เรา ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะมีแต่คนเดิมๆ ที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่คนใหม่ที่พระเจ้าต้องการที่จะสร้างไม่ใช่เหรอ? ทุกอย่างเชื่อว่าพระเจ้ามีแผนการที่ดีสำหรับเรา เชื่อว่าพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งเรา แต่แค่รู้ไว้ว่า พระเจ้าต้องการเปลี่ยนอะไรเราจะสถานการณ์นี้มากกว่า เราต้องแก้ไขปรับปรุงอะไรมากกว่า
ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอบคุณพระองค์สำหรับวันนี้ที่พระองค์ทรงขจัดความกลัวออกไปจากลูก เพราะลูกรู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ด้วยกับลูกตลอดเวลา พระองค์จะไม่ให้ลูกขาดสิ่งใดๆเลย หรืออยู่ในการทดลองใดๆ ที่ลูกไม่สามารถจะทนได้ พระองค์เจ้าขา วันนี้ขอให้ลูกมี ปัญญา มีสติในการคิดใคร่ครวญในสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตลูก และให้ลูกเชื่อว่าลูกจะสามารถก้าวข้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นไปได้จนถึงจุดหมายปลายทางที่ลูกตั้งไว้ เพราะลูกมีพระองค์อยู่เคียงข้าง ด้วยการเอาชนะความกลัวด้วยความเชื่อ อธ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น