มานาประจำวันที่ 9 พค 61-ยากอบ 3:1-12

มานาประจำวันที่ 9 พค 61-ยากอบ 3:1-12


3:1ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอาจารย์กันมากหลายคนเลย เพราะท่านก็รู้ว่า เราทั้งหลายที่เป็นผู้สอนนั้น จะได้รับการทรงพิพากษาที่เข้มงวดกว่าผู้อื่น 3:2เพราะเราทุกคนทำผิดพลาดไปหลายๆอย่าง ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา ผู้นั้นก็เป็นคนดีรอบคอบแล้ว และสามารถบังคับทั้งตัวไว้ได้ด้วย 3:3ถ้าเราเอาบังเหียนใส่ปากม้าเพื่อให้มันเชื่อฟังเรา เราก็บังคับมันให้ไปไหนๆได้ทั้งตัว 3:4จงดูเรือด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าเป็นเรือใหญ่ และถูกลมแรงพัดแล่นไป เรือก็ยังหันไปมาด้วยหางเสือเล็กๆตามใจนายท้ายที่จะให้ไปทางไหน 3:5ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กๆและอวดอ้างเรื่องใหญ่ๆ จงดูเถิดไฟนิดเดียวอาจเผาป่าใหญ่ให้ไหม้ได้หนอ 3:6และลิ้นนั้นก็เป็นไฟ ลิ้นเป็นโลกที่ไร้ธรรมในบรรดาอวัยวะของเรา เป็นเหตุให้ทั้งกายมลทินไปทำให้วัฏฏะแห่งชีวิตเผาไหม้ และมันเองก็ติดไฟโดยนรก 3:7เพราะสัตว์เดียรัจฉานทุกชนิด ทั้งนก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ในทะเลก็เลี้ยงให้เชื่องได้ และมนุษย์ก็ได้เลี้ยงให้เชื่องแล้ว 3:8แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งชั่วที่อยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย 3:9เราทั้งหลายสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดาด้วยลิ้นนั้น และด้วยลิ้นนั้นเราก็แช่งด่ามนุษย์ ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้ตามพระฉายาของพระองค์ 3:10คำสรรเสริญและคำแช่งด่าก็ออกมาจากปากอันเดียวกัน ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า ไม่ควรให้เป็นเช่นนั้น 3:11บ่อน้ำพุจะมีน้ำจืดและน้ำกร่อยพุ่งออกมาจากช่องเดียวกันได้หรือ 3:12พี่น้องทั้งหลายต้นมะเดื่อจะออกผลเป็นมะกอกเทศได้หรือ หรือเถาองุ่นจะออกผลเป็นมะเดื่อได้หรือ บ่อน้ำพุเค็มก็ทำให้เกิดน้ำจืดอีกไม่ได้เลย

เมื่อคำพูดกลายเป็นอาวุธ สิ่งที่ได้รับผลกระทบคือความสัมพันธ์ของเรา

ลิ้นที่ไม่เชื่อง ได้แก่ การนินทาว่าร้าย การดูถูกคนอื่น การคุยโวโอ้อวด การพูดด้วยเลห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ การสอนเท็จ การพูดเกินจริง การบ่น การพูดป้อยอ และการพูดโกหก 

สิ่งเหล่านี้เชื่อว่าเราเคยเป็นมาก่อน และอาจจะมีบางข้อที่ยังเป็นอยู่ และคงอยากที่จะเปลี่ยนให้ตัวเองไม่เป็นแบบนี้เพราะว่าทุกๆคำที่กล่าวมาล้วนแต่ทำให้ตัวเองรู้สึกตกต่ำ และไม่เกิดผลดีกับตัวเองและคนใกล้ตัวแม้สักข้อเดียว สิ่งที่จะช่วยทำให้เราไม่เป็นแบบนี้ได้นั้นคือ ความคิด ที่จะเป็นเหมือน บังเฮียนที่บังคับเราให้ พูดในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าเราบังคับความคิดของเราได้ คำพูดของเราที่ออกมาจากปาก ก็จะเป็นคำพูดที่ฟังแล้วรื่นหู น่าฟัง มีแต่คำเสริมสร้าง ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อคนอื่น และก็ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ต้องเปลี่ยนคือ เป็นคนพูดมาก พูดไร้สาระ พูดตลก จับใจความสำคัญไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่องในบางที ถามมากอีก อยากรู้อะไรถาม ไม่ได้คิด ไม่ได้ไตร่ตรองสิ่งที่จะถาม เพราะเราไม่ได้ใช้สมองในการใคร่ครวญก่อนที่จะถามมันออกมา สักแต่จะถาม อยากรู้แต่ไม่อยากคิดหาคำตอบเอง แต่อยากได้คำตอบทางลัดคือการถาม ถาม ถาม และก็ถาม มีอะไรก็จะถามๆ เพราะเราอยากได้คำตอบเดี๋ยวนั้น ซึ่งบางทีอาจจะทำให้เราเกิดความทุกข์ใจขึ้นในตัวเอง เผลอๆอาจทำให้คนอื่นครียดอีกด้วย

สิ่งที่ต้องทำคือ เราจะต้องควบคุมคำพูดของตัวเองให้มากที่สุด คำพูดมักออกมาจากความคิดที่อยู่ในใจเรา เพราะฉะนั้นขั้นตอนแรกที่จะต้องเปลี่ยนคือความคิดที่อยู่ในเรา ซึ่งความคิดเหล่านี้คือสิ่งที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงในตัวเราเองก่อน ซึ่งมันยากมากที่จะเปลี่ยน เราจึงต้องพึ่งพาพระเจ้า เพื่อที่จะช่วยเราเปลี่ยนความคิดของเรา เปลี่ยนทัศนคติจากแง่ลบ เป็นแง่บวก  เปลี่ยนมุมมองของเรา ค่อยๆเปลี่ยน ค่อยๆ บังคับตัวเอง เพื่อแนวความคิดของเราจะเป็นไปเหมือนพระเจ้ามากขึ้น

ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอทรงเปลี่ยนลูกในทางความคิด คำพูด และการกระทำ ให้เป็นไปแนวทางที่ถูกต้อง ให้ความคิดของลูกมีแต่ความคิดบวก ไม่เอาความคิดลบ ให้เปลี่ยนความเครียดเป็นความชื่นชม ขอบพระคุณพระเจ้าในทุกสถานการณ์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิฐานต่างๆ

คำอธิฐาน

อธิษฐานและนมัสการ ภาษาอังกฤษ