มานาประจำวันที่ 3 เมย 61-สดุดี 73:12-28

มานาประจำวันที่ 3 เมย 61-สดุดี 73:12-28
73:12ดูเถิดคนอธรรมเป็นเช่นนี้แหละ อยู่อย่างสบายเสมอ และร่ำรวยขึ้น 73:13ข้าพเจ้ารักษาใจให้สะอาด และชำระมือด้วยความบริสุทธิ์ก็เปล่าประโยชน์ 73:14เพราะข้าพเจ้ารับภัยอยู่วันยังค่ำ และถูกขนาบอยู่ทุกเช้า 73:15ถ้าข้าพระองค์ได้พูดว่า "ข้าพเจ้าจะพูดอย่างนี้"ข้าพระองค์จะไม่จริงต่อพวกบุตรทั้งหลายของพระองค์อยู่แล้ว 73:16แต่เมื่อข้าพระองค์ตริตรองว่า จะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร ข้าพระองค์รู้สึกว่า เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย 73:17จนข้าพระองค์เข้าไปในสถานนมัสการของพระเจ้าแล้วข้าพระองค์จึงพิเคราะห์เห็นปลายทางของเขาทั้งหลาย 73:18จริงละ พระองค์ทรงวางเขาไว้ในที่ลื่น พระองค์ทรงกระทำให้เขาล้มถึงความพินาศ 73:19แหม เขาถูกทำลายเสียในครู่เดียว ถูกเหตุการณ์สยดสยองกวาดไปอย่างสิ้นเชิง 73:20ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เหมือนความฝันทั้งที่ตื่นอยู่ เมื่อตื่นอยู่ ท่านดูหมิ่นภาพของเขา 73:21เมื่อจิตของข้าพระองค์ขมขื่น เมื่อข้าพระองค์เสียวแปลบถึงหัวใจ 73:22ข้าพระองค์โฉดและไม่เดียงสา ข้าพระองค์ประพฤติเหมือนสัตว์ต่อพระองค์ 73:23ถึงกระนั้นก็ดี ข้าพระองค์อยู่กับพระองค์เสมอพระองค์ทรงจับมือขวาของข้าพระองค์ไว้ 73:24พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์และภายหลังพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ให้ได้รับเกียรติยศ 73:25นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์มิมีผู้ใดในฟ้าสวรรค์นอกจากพระองค์แล้ว ข้าพระองค์ไม่ปรารถนาใดใดในโลก 73:26เนื้อหนังและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจของข้าพระองค์ และเป็นส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์ 73:27เพราะนี่แนะ บุคคลผู้ห่างเหินจากพระองค์จะพินาศพระองค์ทรงให้บุคคลที่ไม่จริงต่อพระองค์ดับไป 73:28แต่ส่วนข้าพระองค์ ที่จะเข้าใกล้พระเจ้านั้นดี ข้าพระองค์ได้ให้พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์


นึกถึงภาพละครไทยหลังข่าว เกี่ยวกับนางอิจฉาที่สุขสบายทุกอย่างแถมยังได้แกล้งนางเอก ทำตามใจตัวเองสารพัด แต่พอตอนจบ ก็ต้องกลับใจเพราะความดีของนางเอกที่ยืดหยัดที่จะให้อภัย และไม่ตอบโต้กลับในทางลบ แต่กว่าจะคิดได้ มันก็อาจจะสายเกินไปสำหรับเขาก็ได้ เคยมานั่งคิดน่ะว่า ทำไมนางอิจฉาสบายจัง แค่มากลับใจทีหลังก็ได้ แต่นางเอกเนี้ย ลำบ๊ากกก ลำบาก กว่าจะสบาย กว่าเรื่องจะคลี่คลายก็ทำเอาตัวเองลำบากสุดๆ

พระธรรมบทนี้ก็เช่นกัน ความลำบากยากเย็นที่เราทำอยู่ ถ้าสิ่งที่เราทำมันดีอยู่แล้ว ก็จงเพียรพยายามทำมันต่อไป อย่าเห็นแค่ว่าคนอื่นทำไมไม่เป็นเหมือนเรา ไม่คิดเหมือนเรา (บางทีความคิดเราอาจจะไม่ถูกต้องก็ได้) งั้นเราเป็นแบบนั้นบ้างดีกว่าจะดีไหม? แต่ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็คงไม่ต่างอะไรกับเขา และก็ไม่สามารถช่วยให้เขาสำนึกถึงความจริงได้ (เหมือนนางเอกที่ยึดมั่นในการทำดี) แต่ถ้าเราเปลี่ยนคำเปรียบเทียบกลับมาถามตัวเองว่า พระเจ้ากำลังสอนอะไรกับเหตุการณ์เหล่านี้ พระเจ้ากำลังพัฒนาอะไรเราดีกว่าที่จะมาตั้งข้อสงสัยว่าทำไม ปรับมุมมองของเราให้เป็นเหมือนมุมมองของพระเจ้า ดีกว่ามานั่งเหนื่อยไล่ตามความคิดที่มาบั่นทอนตัวเอง ต่อให้เราเหนื่อย ท้อมากแค่ไหน หากใจเรามีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางใจของเรา เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากำลังคิดว่ามันกัดกินใจเรานั้น ก็จะสามารถก้าวข้ามผ่านมันไปได้ด้วยดีแน่นอน 

73:26เนื้อหนังและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจของข้าพระองค์ และเป็นส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์ 

ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอให้ลูกได้เข้ามาใกล้ชิดกับพระองค์ในทุกๆวัน เพื่อที่ลูกจะมีความคิดที่เป็นเหมือนพระองค์มากยิ่งขึ้น ขอโปรดทรงเปลี่ยนใจลูกให้เป็นเหมือนพระองค์ เปลี่ยนมุมมอง และพัฒนาตัวลูกให้เป็นเกลือและสว่าง ต่อผู้อื่นต่อไป อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...

















ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิฐานต่างๆ

คำอธิฐาน

อธิษฐานและนมัสการ ภาษาอังกฤษ