มานาประจำวันที่ 21 มีค 61 - มัทธิว 14:25-33
มานาประจำวันที่ 21 มีค 61 - มัทธิว 14:25-33
14:25ครั้นเวลาสามยามเศษ พระองค์จึงทรงดำเนินบนน้ำทะเลไปยังเหล่าสาวก 14:26เมื่อเหล่าสาวกเห็นพระองค์ทรงดำเนินมาบนทะเลเขาก็ตกใจนัก ร้องอึงไปเพราะกลัว คิดว่าเป็นผี 14:27ในทันใดนั้นพระเยซูตรัสกับเขาว่า "ทำใจให้ดีไว้เถิด เราเอง อย่ากลัวเลย" 14:28ฝ่ายเปโตรจึงทูลตอบพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์แน่แล้ว ขอทรงโปรดบอกให้ข้าพระองค์เดินบนน้ำไปหาพระองค์" 14:29พระองค์ตรัสว่า "มาเถิด" เปโตรจึงลงจากเรือเดินบนน้ำไปหาพระเยซู 14:30แต่เมื่อเขาเห็นลมพัดแรงก็กลัว และเมื่อกำลังจะจมก็ร้องว่า "พระองค์เจ้าข้า ช่วยข้าพระองค์ด้วย" 14:31ในทันใดนั้นพระเยซูทรงเอื้อมพระหัตถ์จับเขาไว้ แล้วตรัสว่า "ท่านสงสัยทำไม ท่านช่างมีความเชื่อน้อยเสียจริง" 14:32เมื่อพระองค์กับเปโตรขึ้นเรือแล้ว ลมก็เงียบลง 14:33เขาทั้งหลายที่อยู่ในเรือ จึงมาหมอบกราบพระองค์ ทูลว่า "พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าจริงแล้ว"
นอกเหนือ Comfort Zone ของเรา
คนเราทุกคนมักจะมีเป้าหมายอยากทำอะไรหลายๆอย่าง เช่น อยากออกกำลังกาย อยากเล่นดนตรี อยากทำธุรกิจส่วนตัว อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นเป้าหมาย แต่มักมีอะไรบางอย่างที่มาขั้นความคิดของเราอยู่ มีบางอย่างบอกไม่ให้เราทำ ซึ่งจริงๆแล้วสมองของเรานั้นถูก Designมาให้ปกป้องร่างกาย หรือปกป้องเราให้อยู่รอดปลอดภัย ซึ่งจะปลอดภัยได้คือ ต้องไม่ทำอะไรที่เป็นอันตราย นั้นก็คือ อยู่ใน Comfort Zone ของตัวเอง คือสิ่งที่ทำแล้วไม่อึดอัด ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วปลอดภัย ถ้านอกเหนือจากนี้สมองเราจะจะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมันอันตราย และจะคอยหาเหตุผลให้เราไม่ทำ ไม่กล้าที่จะออกนอกกรอบความคิด ไม่กล้าก้าวข้ามสิ่งต่างๆเพราะอยู่นอกเหนือ Comfort Zone ของตัวเอง
คนเราทุกคนมักจะมีเป้าหมายอยากทำอะไรหลายๆอย่าง เช่น อยากออกกำลังกาย อยากเล่นดนตรี อยากทำธุรกิจส่วนตัว อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นเป้าหมาย แต่มักมีอะไรบางอย่างที่มาขั้นความคิดของเราอยู่ มีบางอย่างบอกไม่ให้เราทำ ซึ่งจริงๆแล้วสมองของเรานั้นถูก Designมาให้ปกป้องร่างกาย หรือปกป้องเราให้อยู่รอดปลอดภัย ซึ่งจะปลอดภัยได้คือ ต้องไม่ทำอะไรที่เป็นอันตราย นั้นก็คือ อยู่ใน Comfort Zone ของตัวเอง คือสิ่งที่ทำแล้วไม่อึดอัด ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วปลอดภัย ถ้านอกเหนือจากนี้สมองเราจะจะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมันอันตราย และจะคอยหาเหตุผลให้เราไม่ทำ ไม่กล้าที่จะออกนอกกรอบความคิด ไม่กล้าก้าวข้ามสิ่งต่างๆเพราะอยู่นอกเหนือ Comfort Zone ของตัวเอง
เปรียบเทียบกับเปโตรที่เขาทำตามการทรงเรียกของพระเจ้า และเชื่อว่าพระเจ้าจะมอบความปลอดภัยให้กับเขา และเชื่อว่าเขาจะเดินบนน้ำได้และด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าทำให้เขาเดินบนน้ำได้ แต่เมื่อเขาเจอคลื่นรอบๆตัว เขาเริ่มคิดว่าตัวเองไม่อาจเดินบนน้ำได้ ทำให้ความเชื่อของเขาเริ่มสั่นคลอน และเริ่มจมลงในทะเล สิ่งที่เขาทำต่อไปคือ ขอความช่วยเหลือกับพระเจ้า และเชื่อมั่นว่าพระเจ้าอยู่กับเขาทำให้เขาผ่านสถานการณ์นั้นมาได้
เราก็เช่นกันสิ่งใดที่ทำแล้วเกิดผลดี สิ่งใดที่เป็นการทรงนำของพระเจ้า เราก็จะทำสิ่งเหล่านั้นไปได้อย่างปลอดภัย โดยอย่าคิดว่าสิ่งที่เราทำมันจะไม่สำเร็จ อย่าเป็นผู้สงสัย อย่าคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เพราะพระเจ้าเป็น Comfort Zone ของเรา ที่มีเนื้อที่ความคิดที่กว้างใหญ่ และเป็นที่ที่ปลอดภัยของเรา เราจะกล้าที่จะคิดและทำในทุกๆเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้
ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอบคุณพื้นที่ความปลอดภัยของพระองค์ที่ทรงมอบให้ลูกตลอดเวลา ขอทรงให้ลูกมองไปที่พระองค์อย่างเดียวไม่สั่นคลอนกับคลื่นลมพายุที่เข้ามา เพราะพระองค์เป็น comfort Zone ที่กว้างใหญ่มหาศาล ลูกขอเชื่อและไว้วางใจในพระองค์ตลอดไป อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น