มานาประจำวันที่ 17 มีค 61 - เอเฟซัส 4:22-32

มานาประจำวันที่ 17 มีค 61 - เอเฟซัส 4:22-32

4:22ท่านจงทิ้งตัวเก่าของท่าน ซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปสู่ความตายตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง 4:23และจงให้วิญญาณจิตของท่านเปลี่ยนใหม่ 4:24และให้ท่านสวมสภาพใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง 4:25เหตุฉะนั้นท่านจงเลิกพูดมุสาเสีย และ จงพูดความจริงต่อกัน เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน 4:26จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่ 4:27และอย่าให้โอกาสแก่มาร 4:28คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆแจกให้แก่คนที่ขัดสน 4:29อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย แต่จงกล่าวคำที่ดีและเป็นประโยชน์ให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยินได้ฟัง 4:30และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย เพราะโดยพระวิญญาณนั้นท่านได้ถูกประทับตราหมายท่านไว้ เพื่อวันที่จะทรงไถ่ให้รอด 4:31จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคือง และใจโกรธ และการทะเลาะเถียงกัน และการพูดเสียดสี กับการคิดปองร้ายทุกอย่างอยู่ห่างไกลจากท่านเถิด 4:32และท่านจงเมตตาต่อกัน มีใจเอ็นดูต่อกัน และอภัยโทษให้กัน เหมือนดังที่พระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้แก่ท่านในพระคริสต์นั้น

อย่าให้โอกาสแก่มาร

คำว่า"พูดเล่น" เป็นเรื่องที่ชอบมโน กล่าวหาว่าเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ที่ไม่ใช่เรื่องจริง ติดอยู่ในสันดาร พูดเล่นเป็นนิสัย บางทีไม่ได้รู้เลยว่า บางครั้งเขาอาจจะเจ็บเพราะคำพูดเหล่านั้น เพราะไม่ได้คิดว่าคนที่เขาฟัง เขาจะเก็บไปคิดมากก ซึ่งหลายๆเหตุการณ์ ที่ทำให้คนอื่นโกรธ เพราะคำว่าพูดเล่นของตัวเอง พูดไม่คิดหน้าคิดหลัง อยากพูดอะไรก็พูด คิดแต่จะสนุก พูดออกมาแล้วซะใจ โดยไม่สนใจว่าเขาจะรู้สึกยังไง ผลของความคิดและคำพูดส่งผลให้เกิดความขมขื่นขึ้นในใจ กลายเป็นความขัดแย้งและทำลายความไว้วางใจและบั่นทอนความสัมพันธ์กัน

4:25เหตุฉะนั้นท่านจงเลิกพูดมุสาเสีย และ จงพูดความจริงต่อกัน เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน

จะดีกว่าไหมถ้าเราเปลี่ยนจากคำพูดเล่น เป็นพูดให้กำลังใจ และหนุนใจคนอื่นแทน  แรกๆอาจจะยากหน่อย แต่ถ้าเปลี่ยนคำพูดและความคิดบ่อยๆ เราก็จะทำและพูดสิ่งเหล่านั้นออกมากได้เองโดยอัตโนมัติ เหมือนที่คิดจะพูดเล่นกับคนอื่น

ข้าแต่พระเจ้าพระบิดาและพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอบคุณพระคำบทนี้ที่ย้ำเตือนให้เปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ในด้านคำพูด เปลี่ยนความคิดและการกระทำด้านบวกมากขึ้น ให้รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้คนรอบตัว และรักคนอื่นได้มากขึ้น ขอทรงยกโทษบาปกับคำพูด การกระทำที่ไม่ดีของลูก ขอขจัดปัดความคิดและคำพูดเหล่านั่นออกไปจากจิตใต้สำนึก และขอโปรดทรงสวมสภาพใหม่ ตามการทรงสร้างในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริงของพระองค์ ลูกขออธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...

#เปลี่ยนความคิดลบเป็นคำหนุนใจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิฐานต่างๆ

คำอธิฐาน

อธิษฐานและนมัสการ ภาษาอังกฤษ