มานาประจำวันที่ 2 กพ 61-โคโลสี 4:2-6

มานาประจำวันที่ 2 กพ 61-โคโลสี 4:2-6

4:2จงขะมักเขม้นอธิษฐาน จงเฝ้าระวังอยู่ในการนั้นด้วยขอบพระคุณ 4:3และอธิษฐานเผื่อเราด้วย เพื่อพระเจ้าจะได้ทรงโปรดเปิดประตูไว้ให้เราสำหรับพระวาทะนั้น ให้เรากล่าวความล้ำลึกของพระคริสต์ (ที่ข้าพเจ้าถูกจำจองอยู่ก็เพราะเหตุนี้) 4:4เพื่อข้าพเจ้าจะได้กล่าวชี้แจงข้อความ ตามสมควรที่ข้าพเจ้าควรจะกล่าวนั้น 4:5จงปฏิบัติกับคนภายนอกด้วยใช้สติปัญญา โดยฉวยโอกาส 4:6จงให้วาจาของท่านประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้จักตอบให้จุใจแก่ทุกคน

จงปฏิบัติกับคนภายนอกด้วยใช้สติปัญญา โดยฉวยโอกาส 4:6จงให้วาจาของท่านประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้จักตอบให้จุใจแก่ทุกคน

เรม่า :จดจำพระวจนะไปบอกข่าวประเสริฐ

ปัญหาในชีวิตของคนเรานั้น มีอยู่ในทุกคนไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเงิน ปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ซึ่งมีเข้ามาในชีวิตทุกๆวัน แต่ละคนก็หาทางแก้ปัญหาเหล่านั้นที่แตกต่างกันออกไป 

ในทางของพระเจ้านั้น การอธิษฐานเป็นทางออกที่ดีที่สุด การพูดคุยกับพระเจ้าอธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้าไว้วางใจในพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ พระเจ้าจะช่วยเรา พระเจ้ารู้ว่าเราต้องการอะไรเพราะพระองค์จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราเสมอ ซึ่งทำให้เราหมดความกังวลต่อปัญหาเหล่านั้น และทุกครั้งที่เราอธิษฐานเราก็จะเจอพระพรที่ซ่อนอยุ่เสมอ ทำให้เห็นถึงการแก้ปัญหาในแนวทางที่ดีและเพิ่มความเชื่อในพระเจ้ามากขึ้น 

ไม่ว่าจะเวลาใด สถานที่ใด เมื่อเรามีคำพูดที่หนุนใจ เป็นพยานให้กับผู้คนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า เป็นเกลือและแสงสว่างให้เขาได้เห็นถึงความรักของพระเจ้า เราก็จะสามารถนำพวกเขาเหล่านั้นมารับความรอดได้เช่นกัน

ดังนั้นเราจึงควรที่จะเรียนรู้พระวจนะ อ่านพระคัมภีร์ ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับพระคัมภีร์ให้เข้าใจถึงพระคำของพระเจ้า และนำมาใช้ในคำอธิษฐาน นอกจากนี้เราก็ยังสามารถจดจำพระวจนะไปบอกเล่าข่าวประเสริฐนี้ให้กับคนที่เรารู้จักได้มารับความรอดด้วย

ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอโปรดทรงให้ลูกมีใจที่จะอธิษฐานร้องทุลกับพระองค์ในทุกๆเรื่อง ให้การอธิษฐานของลูกเป็นเหมือนดั่งลมหายใจ โปรดทรงเสริมสติปัญญาให้ลูกจดจำในพระคำของพระองค์อย่างแม่นยำ และเข้าใจในสิ่งที่พระองค์สอนและเตือนลูก เพื่อที่จะใช้เป็นสิ่งป้องกันมารที่จะเข้ามาทำให้ลูกอ่อนแอลง ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระพรของพระองค์ในทุกๆวัน ที่ลูกได้ร้องขอพระองค์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...

“การหยุดอธิษฐานก็เท่ากับว่าเราเลิกสู้แล้ว การอธิษฐานทำให้ยุทโธปกรณ์ของคริสเตียนเราเป็นเงาวาววับขึ้น และซาตานก็กลัวจนตัวสั่นเมื่อมันเห็นวิสุทธชนที่อ่อนแอที่สุดคุกเข่าลงตรงเบื้องพระพักตร์พระเจ้า”    (วิลเลี่ยม คาวเพอร์ ค.ศ.1731-1800)