มานาประจำวันที่ 12 กพ 61-1 พงศ์กษัตริย์ 17:7-16
มานาประจำวันที่ 12 กพ 61-1 พงศ์กษัตริย์ 17:7-16
17:7และต่อมาภายหลังลำธารก็แห้ง เพราะไม่มีฝนในแผ่นดิน 17:8และพระวจนะของพระเจ้ามายังท่านว่า 17:9"ลุกขึ้นไปยังเมืองศาเรฟัทเถิด ซึ่งขึ้นแก่เมืองไซดอน และอาศัยอยู่ที่นั่น ดูเถิด เราได้บัญชาหญิงม่ายคนหนึ่งที่นั่นให้เลี้ยงเจ้า" 17:10ท่านจึงลุกขึ้นไปยังเมืองศาเรฟัท และเมื่อมาถึงประตูเมือง ดูเถิด หญิงม่ายคนหนึ่งที่นั่นกำลังเก็บฟืน ท่านจึงเรียกนางว่า "ขอน้ำเล็กน้อยใส่ภาชนะมาให้ฉัน เพื่อฉันจะได้ดื่มน้ำ" 17:11และขณะเมื่อนางจะไปเอาน้ำมา ท่านก็เรียกนางแล้วบอกว่า "ขอนำอาหารใส่มือมาให้ฉันสักหน่อยหนึ่ง" 17:12และนางตอบว่า "พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ดิฉันไม่มีอะไรที่ปิ้งเสร็จ มีแต่แป้งสักกำมือหนึ่งในหม้อ และน้ำมันเล็กน้อยที่ในไห บัดนี้ดิฉันกำลังเก็บฟืนเล็กน้อย เพื่อจะเข้าไปทำสำหรับตัวดิฉัน และบุตรชายของดิฉัน เพื่อเราจะได้กินแล้วก็จะตาย" 17:13และเอลียาห์บอกนางว่า "อย่ากลัวเลย จงไปทำตามที่เจ้าพูด แต่จงทำขนมก้อนเล็กให้ฉันก่อน แล้วเอามาให้ฉัน ภายหลังจึงทำสำหรับตัวเจ้าและบุตรของเจ้า 17:14เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า "แป้งในหม้อนั้นจะไม่หมด และน้ำมันในไหนั้นจะไม่ขาด จนกว่าจะถึงวันที่พระเจ้าทรงส่งฝนลงมายังพื้นดิน" 17:15นางก็ไปกระทำตามคำของเอลียาห์ นาง ตัวท่านและครอบครัวของนางก็รับประทานอยู่หลายวัน 17:16แป้งในหม้อก็ไม่หมดน้ำมันในไหก็ไม่ขาด ตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งตรัสทางเอลียาห์
เพราะให้จึงไม่อด
บางครั้งเรากังวลกับเรื่องอนาคตมากเกินไป ชอบกลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง หรือนึกถึงแต่ตัวเองมากกว่าที่จะช่วยเหลือคนอื่น ใจไม่กว้างพอกับการให้หรือแบ่งปันกับคนอื่น หรือชอบกำหนดความคิดและขอบเขตของตัวเองจนรู้สึกไม่มีความสุข คิดไปก่อนล่วงหน้าทั้งๆที่สถานการณ์มันยังไม่เกิด แต่พอถึงเวลานั้นจริงๆ มันอาจจะไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้ ก็ได้
มานาวันนี้ทำให้เห็นตัวอย่างของ หญิงม้ายที่เขามีอาหารมื้อสุดท้ายของเธอและลูกชาย แต่เอลียาห์ก็ขอให้หญิงม่ายนั้นทำให้เขากินก่อนแล้วจึงให้เธอกับลูกกินทีหลัง และพระเจ้าจะทรงเลี้ยงดูมิให้อดยาก จนกว่าวันที่พรเจ้าจะส่งฝนลงมา หญิงม่ายนั้นก็ทำตาม แม้เธอจะยากจนแต่เธอก็เชื่อฟังและปฎิบัตตามคำที่เอลิยาห์บอก ทั้งๆที่นางมีอาหารแค่เล็กน้อย แต่นางก็มีใจที่จะให้คนอื่นที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ สุดท้ายหญิงม่ายก็ได้รับพระพรจากการให้ของนาง ทำให้นางไม่ต้องอดตายอีกต่อไป
เรื่องราวของเอลิชาและหญิงม่ายทำให้เห็นถึงความเชื่อและวางใจในพระเจ้าของเขาทั้งสอง ไม่ว่าสิ่งใดที่พระเจ้าให้พวกเขาทำ พวกเขาก็จะทำตาม ในสิ่งที่พระเจ้าทรงนำ โดยไม่มีข้อแม้แต่อย่างใด และได้เห็นถึงความใจกว้าง และความมีน้ำใจของหญิงม่าย ที่แม้เธอจะไม่มี แต่เธอก็ยังสามารถแบ่งปันได้ในยามที่ยากลำบาก และในที่สุดเธอก็ได้รับพระพรตามพระสัญญาของพระเจ้า
"แป้งในหม้อนั้นจะไม่หมด และน้ำมันในไหนั้นจะไม่ขาด จนกว่าจะถึงวันที่พระเจ้าทรงส่งฝนลงมายังพื้นดิน"
กลับมาดูที่ตัวเราเอง ถ้าเจอสถานการณ์บางอย่างที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เราก็จะหยุด และไม่ทำต่อ กระวนกระวายใจ ท้อแท้ถดถอย ถึงแม้ว่าจะมีคนบอกว่ามันเป็นไปได้ แต่เราก็ยังเถียงว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ ไม่เอา ไม่ทำ ไม่มี ไม่พอ ไม่ให้ ไม่ไม่ไม่ไม่ ปฎิเสธ ทุกกรณี เพราะกังวลว่าในอนาคตฉันจะใช้ยังไง จะกินไม่พอ ฉันจะเป็นยังไงในอนาคต ปฎิเสธให้ความช่วยเหลือ มีความเห็นแก่ตัวใส่เพื่อนมนุษย์ แต่ถ้าเราเชื่อและวางใจในพระเจ้า ต่อให้ไม่มีหรือขัดสนยังไง เราก็จะไม่ขาดสิ่งใดๆ และกล้าที่จะเผชิญกับปัญหาได้มากขึ้น ให้พระเจ้านำทางชีวิตของเรา
ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอบคุณพระคำวันนี้ที่ให้เห็นถึงความไว้วางใจ และความใจกว้างของ หญิงม่ายที่แม้เขาจะมีเล็กน้อยแต่เขาก็ยังแบ่งปันช่วยเหลือ และขอเปลี่ยนแปลงลูกที่ลูกจะมีใจเหมือนหญิงม้าย มีใจที่จะแบ่งปัน ช่วยเหลือคนอื่นมากขึ้น ขอพระองค์โปรดสวมความรัก ความเมตตาให้ลูกด้วย และให้ลูกมีความกล้าและเชื่อมั่น ไว้วางใจใจพระองค์มากขึ้นทุกๆวัน ลูกขออธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น