มานาประจำวันที่ 1 กพ 61 - มัทธิว 21:12-16
มานาประจำวันที่ 1 กพ 61 - มัทธิว 21:12-16
21:12พระเยซูจึงเสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหารของพระเจ้า ทรงขับไล่บรรดาผู้ซื้อขายในบริเวณพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะผู้รับแลกเงิน กับทั้งคว่ำม้านั่งผู้ขายนกพิราบเสีย 21:13พระองค์ตรัสกับเขาว่า "มีพระวจนะเขียนไว้ว่า นิเวศของเราเขาจะเรียกว่า เป็นนิเวศอธิษฐาน แต่เจ้าทั้งหลายมากระทำให้เป็น ถ้ำของพวกโจร 21:14คนตาบอดและคนง่อยพากันมาเฝ้าพระองค์ในบริเวณพระวิหาร พระองค์ได้รักษาเขาให้หาย 21:15แต่เมื่อพวกปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์ ได้เห็นการมหัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ ทั้งได้ยินหมู่เด็กร้องในบริเวณพระวิหารว่า "โฮซันนาแก่ราชโอรสดาวิด" เขาทั้งหลายก็พากันแค้นเคือง 21:16เขาทั้งหลายจึงทูลพระองค์ว่า "ท่านไม่ได้ยินคำที่เขาร้องหรือ" พระเยซูตรัสตอบว่า "ได้ยินแล้ว พวกท่านยังไม่เคยอ่านหรือว่า พระองค์ทรงกระทำให้คำสรรเสริญอันจริงแท้ ออกมาจากปากเด็กและทารกที่ยังไม่หย่านม
เรม่า: จงเดินโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยสิ่งที่มองเห็น
ก่อนหน้านี้เคยสงสัยว่า ศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ นับถือพระเจ้าองค์เดียวกันหรือป่าว? ในเมื่อศาสนาอิสลามนับถือพระเจ้า ทำไมถึงไม่ประกาศข่าวประเสริฐทั้งๆที่เขาก็เชื่อพระเจ้าเหมือนกัน? ทำไมพระเยซูแค่ตายบนไม้กางเขนก็เป็นการไถ่บาปได้แล้วเหรอ? แล้วแค่สารภาพบาปกับพระเจ้าก็เป็นการไถ่โทษได้แล้วเหรอ? ความสงสัยมากมายในการเข้ามาเชื่อพระเจ้า ความสงสัยไม่ได้ช่วยให้เราหมดความกังวล บางทีมันอาจจะยิ่งทำให้เราสับสนมากยิ่งไปอีก ยิ่งคิดยิ่งสงสัย ทำไม??????
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับมานาวันนี้ที่พระองค์ตอบคำถามผ่านมานาว่าในที่สุดแล้วสิ่งที่เราสงสัยก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะคำตอบสุดท้ายก็ยังเป็นพระเจ้าอยุ่ดี เหมือนตัวอย่างที่พวกผู้นำอิสราเอลที่โกรธแค้าพระเยซู ไม่เชื่อในพระเยซู เพราะคิดว่าพระเยซูไม่ใช่พระเมสสิยาห์และบุตรดาวิดแบบที่พวกเขารอคอย และนำพระเยซูไปทรมานและตรึงบนไม้กางเขน โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป แต่พระเยซูก็ไม่ทรงโทษพวกเขา กลับยอมถูกตรึงบนกางเขน ที่ทั้งเจ็บปวดและน่าอัปยศ สุดท้ายพระเยซูก็สำแดงให้พวกเขาเห็นโดยฟื้นขึ้นมาจากความตายและทรงมีชัยชนะเด็ดขาดเหนือศัตรูด้วยความรักและทรงบัญชาให้ลูกหลานของชนทุกชาติประกาศถ้อยคำนี้
จากตัวอย่างนี้ทำให้เรารู้ว่าเราจะมัวเป็นแบบพวกผู้นำอิสราเอลทำไม จะไม่เชื่อพระเยซูได้อย่างไรในเมื่อความรักของพระองค์ทรงสำแดงให้เห็นผ่านความเจ็บปวด และความอัปยศที่พระองค์ได้รับ หลักฐานพระคัมภีร์ก็ชี้ชัดถึงประวัติของพระองค์เยอะแยะมากมาย
และแน่นอนที่สุดพระเจ้าทรงสถิตอยุ่กับเราตลอดเวลาแม้ว่าเราจะเจอปัญหาอะไรก็ตามพระองค์จะจูงมือเราอยู่แม้ว่าจะสะดุดล้มลง เราไม่รู้เลยว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอแค่เราติดตามพระเจ้าวันต่อวัน พระองค์จะอยุ่กับเรา จูงมือเราแม้ว่าวันหนึ่งที่เราล้มลง พระองค์ก็จะฉุดเราขึ้นมา ขอแค่ให้เราจดจ่ออยู่ที่เส้นทางข้างหน้า และให้ชื่นชมยินดีในการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า
จงเดินโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยสิ่งที่มองเห็น และวางใจให้เราเป็นผู้เปิดทางให้แก่เจ้า
ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอบคุณพระวจนะคำของพระองค์ในวันนี้ที่ทำให้ลูกเชื่อมั่นในพระองค์มากขึ้น ขอยกโทษบาปในความสับสน ความสงสัยของลูกที่มีต่อพระองค์ ความคิดที่ไม่รู้ว่าพระองค์ยิ่งใหญ่เพียงใด ความรักที่ประเสริฐของพระองค์ยิ่งใหญ่มากนัก ขอให้ลูกจดจ่ออยู่กับเส้นทางข้างหน้าและชื่นชมยินดีในการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...
21:12พระเยซูจึงเสด็จเข้าไปในบริเวณพระวิหารของพระเจ้า ทรงขับไล่บรรดาผู้ซื้อขายในบริเวณพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะผู้รับแลกเงิน กับทั้งคว่ำม้านั่งผู้ขายนกพิราบเสีย 21:13พระองค์ตรัสกับเขาว่า "มีพระวจนะเขียนไว้ว่า นิเวศของเราเขาจะเรียกว่า เป็นนิเวศอธิษฐาน แต่เจ้าทั้งหลายมากระทำให้เป็น ถ้ำของพวกโจร 21:14คนตาบอดและคนง่อยพากันมาเฝ้าพระองค์ในบริเวณพระวิหาร พระองค์ได้รักษาเขาให้หาย 21:15แต่เมื่อพวกปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์ ได้เห็นการมหัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ ทั้งได้ยินหมู่เด็กร้องในบริเวณพระวิหารว่า "โฮซันนาแก่ราชโอรสดาวิด" เขาทั้งหลายก็พากันแค้นเคือง 21:16เขาทั้งหลายจึงทูลพระองค์ว่า "ท่านไม่ได้ยินคำที่เขาร้องหรือ" พระเยซูตรัสตอบว่า "ได้ยินแล้ว พวกท่านยังไม่เคยอ่านหรือว่า พระองค์ทรงกระทำให้คำสรรเสริญอันจริงแท้ ออกมาจากปากเด็กและทารกที่ยังไม่หย่านม
เรม่า: จงเดินโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยสิ่งที่มองเห็น
ก่อนหน้านี้เคยสงสัยว่า ศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ นับถือพระเจ้าองค์เดียวกันหรือป่าว? ในเมื่อศาสนาอิสลามนับถือพระเจ้า ทำไมถึงไม่ประกาศข่าวประเสริฐทั้งๆที่เขาก็เชื่อพระเจ้าเหมือนกัน? ทำไมพระเยซูแค่ตายบนไม้กางเขนก็เป็นการไถ่บาปได้แล้วเหรอ? แล้วแค่สารภาพบาปกับพระเจ้าก็เป็นการไถ่โทษได้แล้วเหรอ? ความสงสัยมากมายในการเข้ามาเชื่อพระเจ้า ความสงสัยไม่ได้ช่วยให้เราหมดความกังวล บางทีมันอาจจะยิ่งทำให้เราสับสนมากยิ่งไปอีก ยิ่งคิดยิ่งสงสัย ทำไม??????
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับมานาวันนี้ที่พระองค์ตอบคำถามผ่านมานาว่าในที่สุดแล้วสิ่งที่เราสงสัยก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะคำตอบสุดท้ายก็ยังเป็นพระเจ้าอยุ่ดี เหมือนตัวอย่างที่พวกผู้นำอิสราเอลที่โกรธแค้าพระเยซู ไม่เชื่อในพระเยซู เพราะคิดว่าพระเยซูไม่ใช่พระเมสสิยาห์และบุตรดาวิดแบบที่พวกเขารอคอย และนำพระเยซูไปทรมานและตรึงบนไม้กางเขน โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป แต่พระเยซูก็ไม่ทรงโทษพวกเขา กลับยอมถูกตรึงบนกางเขน ที่ทั้งเจ็บปวดและน่าอัปยศ สุดท้ายพระเยซูก็สำแดงให้พวกเขาเห็นโดยฟื้นขึ้นมาจากความตายและทรงมีชัยชนะเด็ดขาดเหนือศัตรูด้วยความรักและทรงบัญชาให้ลูกหลานของชนทุกชาติประกาศถ้อยคำนี้
จากตัวอย่างนี้ทำให้เรารู้ว่าเราจะมัวเป็นแบบพวกผู้นำอิสราเอลทำไม จะไม่เชื่อพระเยซูได้อย่างไรในเมื่อความรักของพระองค์ทรงสำแดงให้เห็นผ่านความเจ็บปวด และความอัปยศที่พระองค์ได้รับ หลักฐานพระคัมภีร์ก็ชี้ชัดถึงประวัติของพระองค์เยอะแยะมากมาย
และแน่นอนที่สุดพระเจ้าทรงสถิตอยุ่กับเราตลอดเวลาแม้ว่าเราจะเจอปัญหาอะไรก็ตามพระองค์จะจูงมือเราอยู่แม้ว่าจะสะดุดล้มลง เราไม่รู้เลยว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอแค่เราติดตามพระเจ้าวันต่อวัน พระองค์จะอยุ่กับเรา จูงมือเราแม้ว่าวันหนึ่งที่เราล้มลง พระองค์ก็จะฉุดเราขึ้นมา ขอแค่ให้เราจดจ่ออยู่ที่เส้นทางข้างหน้า และให้ชื่นชมยินดีในการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า
จงเดินโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยสิ่งที่มองเห็น และวางใจให้เราเป็นผู้เปิดทางให้แก่เจ้า
ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอบคุณพระวจนะคำของพระองค์ในวันนี้ที่ทำให้ลูกเชื่อมั่นในพระองค์มากขึ้น ขอยกโทษบาปในความสับสน ความสงสัยของลูกที่มีต่อพระองค์ ความคิดที่ไม่รู้ว่าพระองค์ยิ่งใหญ่เพียงใด ความรักที่ประเสริฐของพระองค์ยิ่งใหญ่มากนัก ขอให้ลูกจดจ่ออยู่กับเส้นทางข้างหน้าและชื่นชมยินดีในการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น