มานาประจำวันที่ 6 มิย 61-1 ซามูเอล 16:1-7

มานาประจำวันที่ 6 มิย 61-1 ซามูเอล 16:1-7

16:1พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า "เจ้าจะเป็นทุกข์เรื่องซาอูลนานเท่าใดเล่า เมื่อเราถอดเขาจากเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลแล้ว จงเติมน้ำมันให้เต็มเขาสัตว์ของเจ้า แล้วก็ไปเถอะ เราจะใช้เจ้าไปหาเจสซีชาวเบธเลเฮม เพราะว่าในหมู่พวกบุตรของเขาเราจัดเตรียมกษัตริย์องค์หนึ่งไว้แล้วสำหรับเรา" 16:2ซามูเอลก็กราบทูลว่า "ข้าพระองค์จะไปอย่างไรได้ ถ้าซาอูลได้ยินเขาคงฆ่าข้าพระองค์เสีย" และพระเจ้าตรัสว่า "จงนำโคตัวเมียไปกับเจ้าตัวหนึ่งและกล่าวว่า "ข้าพเจ้ามาถวายสัตวบูชาแด่พระเจ้า" 16:3จงเชิญเจสซีมาที่การถวายสัตวบูชานั้น แล้วเราจะสำแดงให้เจ้ารู้ว่าเจ้าควรจะกระทำประการใด เจ้าจงเจิมให้เราผู้ซึ่งเราจะบอกชื่อแก่เจ้า" 16:4ซามูเอลก็กระทำตามที่พระเจ้าทรงบัญชา และมาที่เบธเลเฮมพวกผู้ใหญ่ของเมืองนั้นก็ตัวสั่นออกมาหาท่านกล่าวว่า "ท่านมาอย่างสันติหรือ" 16:5และซามูเอลตอบว่า "มาอย่างสันติ เรามาถวายสัตวบูชาแด่พระเจ้า จงชำระตัวของท่านให้บริสุทธิ์และขอเชิญมาที่การถวายสัตวบูชากับเรา" และซามูเอลก็ชำระตัวเจสซีและบุตรทั้งหลายของท่านให้บริสุทธิ์ และเชิญเขาเหล่านั้นให้ไปยังการถวายสัตวบูชา 16:6อยู่มาเมื่อเขาทั้งหลายมาแล้ว ท่านก็มองเห็นเอลีอับจึงคิดว่า "ผู้ที่พระองค์ทรงให้เจิมไว้ก็อยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าแน่แล้ว" 16:7แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า "อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขาเพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ"


เห็นคุณค่าในตัวเอง

กาลครั้งหนึ่งมีพระราชากับภรรยา 4 คน วันหนึ่ง พระราชาเกิดป่วยและนอนอยู่บนเตียง เขารู้สึกกลัวที่จะต้องใช้ชีวิตหลังความตายคนเดียว เขาจึงถามภรรยาทั้ง 4 ซึ่งเขารักที่สุด เขาได้เคยซื้อเพชร ทองและเสื้อผ้าสวยๆให้ เขาได้ถามภรรยาว่าเธอจะตายและไปกับฉันในโลกหลังความตายไหม
ภรรยาคนที่ 4 ตอบว่า ขอโทษด้วย ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ และเดินจากไป
ภรรยาคนที่ 3 ตอบว่า ฉันรักชีวิตของฉันมากเกินกว่าที่จะทำแบบนั้นตอนที่คุณตายฉันก็จะแต่งงานใหม่
ภรรยาคนที่ 2 ตอบว่า ฉันไม่สามารถไปกับคุณได้ แต่สิ่งที่ฉันทำได้คือจัดงานศพให้คุณและจะอยู่ร่วมงานศพของคุณ
ภรรยาคนที่ 1ตอบว่าฉันจะไปกับคุณและจะติดตามคุณไปทุกที่แม้ว่าจะเป็นโลกหลังความตายก็ตาม  เขารู้สึกอับอายมากเพราะภรรยาคนแรกเป็นคนที่เขาเอาใจใส่น้อยที่สุด และได้แต่พูดว่า ข้าขอโทษ ข้าน่าจะดูแลเจ้าดีกว่านี้และให้ความสนใจมากกว่านี้ตอนข้าใช้ชีวิต
ปรัชญาของเรื่องนี้คือ เราทุกคนต่างมีภรรยาทั้ง 4 คน 
ภรรยาคนที่ 4 เปรียบเสมือน ร่างกายของเรา เราชอบตกแต่งด้วยเครื่องประดับสวยๆ เสื้อผ้าสวยๆ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถติดตามเราไปได้ถึงชีวิตหลังความตาย
ภรรยาคนที่ 3 เปรียบเสมือน ทรัพย์สมบัติของเรา เราใช้เวลามหาศาลเพื่อที่จะเก็บสะสมทรัพย์สมบัติ แต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถติดตามเราไปได้ ในชีวิตหลังความตาย มันจะถูกมอบให้กับผู้อื่นและแบ่งออกไปดั่งที่ภรรยาคนที่ 3 บอกว่าเธอจะแต่งงานใหม่
ภรรยาคนที่ 2 เปรียบเสมือน เพื่อนและครอบครัว  เราไว้ใจพวกเขา เขาจะอยู่ตรงนั้นเสมอเมื่อเราต้องการ แต่ไกลที่สุดพวกเขาก็ส่งเราได้แค่ งานศพของเราเท่านั้น
ภรรยาคนที่ 1 เปรียบเสมือน จิตวิญญาณของเรา เรามักจะละเลยที่จะดูแล จิตวิญญาณของเรา นั่นคือสิ่งที่จะตามเราไปถึงชีวิตหลังความตาย 

อย่าลืมที่จะดูแลจิตวิญญาณของคุณ หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของคุณอยู่เสมอ ให้เวลากับตัวเอง ใช้เวลาที่จะอธิษฐาน ถนอมใจของตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง รักตัวเองให้มากกว่าที่จะมาบั่นทอนจิตใจด้วยสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ให้กับตัวเอง เพราะนี้คือจุดกำเนิดของชีวิตคุณทั้งหมด และเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของคุณ  cr Sean Buranahiran

บ่อยครั้งเรามองคนอื่นแต่เพียงภายนอกและไม่ใช้เวลามองความงดงามที่ซ่อนอยู่ภายใน เรามักไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่พระเจ้ามองว่ามีค่า แต่ถ้าเราใช้เวลาเพ่งมองให้ลึกลงไป เราอาจได้พบสมบัติอันล้ำค่า 
cr มานาประจำวัน

ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตและจิตวิญญาณ ขอบคุณพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่กับลูก ที่หล่อเลี้ยงชีวิตจิตใจลูกในทุกๆครั้งที่อธิษฐานอ้อนวอน ขอโปรดทรงให้ลูกเห็นคุณค่าในตัวเอง เห็นสิ่งล้ำค่ามากมายในชีวิต เพื่อเป็นประโยชน์และส่องสว่างไปยังผู้อื่น อธ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน...







ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิฐานต่างๆ

คำอธิฐาน

อธิษฐานและนมัสการ ภาษาอังกฤษ