มานาประจำวันที่ 4 ก.ค. 60 - โรม 6:15-23
มานาประจำวันที่ 4 ก.ค. 60 - โรม 6:15-23
6:15ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป เราจะทำบาปเพราะมิได้อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระคุณกระนั้นหรือ ก็อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย 6:16ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่า ถ้าท่านยอมตัวรับใช้ฟังคำของผู้ใด ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้น คือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตาย หรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรมก็ตาม 6:17แต่จงขอบพระคุณพระเจ้า เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านเป็นทาสของบาป แต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งทรงให้ครอบครองท่าน 6:18เมื่อท่านพ้นจากบาปแล้ว ท่านก็ได้เป็นทาสของความชอบธรรม 6:19ข้าพเจ้ายกเอาตัวอย่างมนุษย์มาพูด เพราะเหตุเนื้อหนังของท่านอ่อนกำลัง เพราะท่านเคยให้อวัยวะของท่าน เป็นทาสของการโสโครก และของการบาปซ้อนบาปฉันใด บัดนี้ท่านจงให้อวัยวะของท่านเป็นทาสของความชอบธรรม เพื่อให้ถึงการชำระให้บริสุทธิ์ฉันนั้น 6:20เมื่อท่านทั้งหลายเป็นทาสของบาป ความชอบธรรมก็ไม่ได้ครอบครองท่าน 6:21ขณะนั้นท่านได้ประโยชน์อะไรในการเหล่านั้น ซึ่งบัดนี้ท่านทั้งหลายก็ละอาย ด้วยว่าผลสุดท้ายของการเหล่านั้น ก็คือความตาย 6:22แต่เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายพ้นจากการเป็นทาสของบาป และกลับมาเป็นทาสของพระเจ้าแล้ว ผลสนองที่ท่านได้รับก็คือการชำระให้บริสุทธิ์ และผลสุดท้ายคือชีวิตนิรันดร์ 6:23เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ยอมรับ
- เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ความบาป
- เป็นทาสความบาป ทำตามใจเนื้อหนัง
ไม่สำนึกในพระคุณ
พระสัญญา
- ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์
คำสั่ง
- จงให้อวัยวะของท่านเป็นทาสของความชอบธรรม
ท่าทีที่ต้องเปลี่ยน
- การที่เราอยู่กับอิสรภาพทุกวัน เราอาจลืมพระพรที่ได้มาง่าย เรามักลืมไปว่าการถูกความบาปจับเป็นตัวประกันนั้นเป็นอย่างไร เราพอใจในตัวเองและไม่สำนึกพระคุณ แต่พระเจ้าก็ส่งคำตักเตือนมาในรูปแบบของผู้เชื่อใหม่ ที่เป็นพยานถึงเรื่องที่พระเจ้าทำในชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา และอีกครั้งหนึ่งที่เราได้มองเห็นความชื่นชมยินดีที่เป็นของเรา เมื่อเรา “พ้นจากกฎแห่งบาปและความตาย”
ฉะนั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกว่าอิสระภาพเป็นเรื่องน่าเบื่อ หรือมัวสนใจแต่สิ่งที่เราทำไม่ได้ ให้เราคิดว่า "เราไม่เพียงแต่ไม่ได้เป็นทาสของความบาปนั้น แต่เรายังเป็นอิสระที่จะบริสุทธิ์และชื่นชมยินดีกับชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์ด้วย
ยอมปฎิบัติ
- เดินในทางของพระเจ้า เชื่อฟังและปฎิบัติตามอย่างสุดจิตสุดใจ
อธิฐาน
ข้าแต่พระบิดา พระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์ ลูกขอขอบคุณพระองค์ในทุกๆสถาณการ์ณที่เข้ามาในชีวิตลูก ขอบคุณพระองค์ที่เข้ามาเยียวยาจิตใจลูกในทุกๆครั้ง พระองค์ทำให้ลูกเรียนรู้และมีประสบการ์ณกับทุกเรื่องที่เข้ามา และเห็นถึงความจริงบางอย่าง เห็นถึงความบาปของตัวเอง เห็นถึงความดีของคนอื่น เห็นถึงความรัก ความเมตตา ความห่วงใย ที่มีต่อลูก ขอบคุณพระวจนะในทุกๆวัน คำสอน คำตักเตือนผ่านสิ่งต่างๆ ที่ช่วยย้ำเตือนลูกให้เข้าใจและไม่หลุดไปจากพระองค์ ขอโปรดทรงเสริมสร้างสติปัญญาให้ลูกไม่หลงไปกับความคิดที่ไม่ดี ความคิดที่เห็นแก่ตัว โปรดทรงชำระจิตใจลูกให้สะอาดบริสุทธิ์และรักในอิสระภาพที่พระองค์มอบให้อย่างไม่มีเบื่อ เพื่อให้ลูกได้รับใช้และเดินตามทางพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ อธิฐานในพระนามพระเยซูคริสตเจ้า เอเมน...
***
ช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น...
มักจะผ่านไปรวดเร็ว
และมักจะอยู่กับเราไม่นาน
บางครั้ง มันก็มา แล้วก็หายไป
ถึงแม้เราจะกอบโกยช่วงเวลา
แห่งความสุขนั้นไว้ในใจได้
แต่..
ในความจริงวันหนึ่ง
มันก็ต้องหายไปอยู่ดี
ผิดกับช่วงเวลาแห่งทุกข์
ความเศร้า ความเหงา
ที่มันมักจะอยู่กับเราไปนานแสนนาน..
ถึงแม้ว่า...
เราจะสลัดมันทิ้งไป กี่ครั้งก็ตาม
มันก็มักจะกลับมาใหม่อยู่เสมอ
ผิดกับช่วงเวลาแห่งความสุข
ที่เราอยากให้มันแวะเวียนมาหาเราบ่อยๆ
แต่...
มันชั่งยากเหลือเกินที่จะกลับมา
จึงทำให้คิดไปว่า ช่วงเวลาแห่งสุขที่เกิดขึ้นมา
ในแต่ละครั้งมันอาจจะเป็นแค่ความฝันก็ได้??
***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น